เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินเพลง Magic Shop ของวง BTS แต่หลายๆ คนคงยังไม่ทราบว่าแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้เริ่มต้นมาจากหนังสือที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้ หนังสือ Into the magic shop เป็นดั่งร้านเวทมนตร์ในใจสำหรับใครหลายๆ คน หนังสือเล่มนี้ได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างแรงบันดาลใจและผลักดันให้เดินหน้าทำสู่ความสำเร็จ เหล่าคนดังมากมายต่างก็ยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่ควรค่าแก่การหยิบมาอ่านสักครั้ง ในวันนี้เราจึงได้มีโอกาสหยิบหนังสือเล่มนี้มารีวิวกันโดยเพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก จะมาบอกเล่าถึงเรื่องราวความน่าประทับใจของร้านเวทมนตร์เล่มนี้ให้เราได้รู้กันใน รีวิว Into the magic shop เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ
รีวิว Into the magic shop เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ
หนังสือเล่มนี้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง Magic Shop ของวง BTS วงนักร้องเกาหลีชื่อดัง ยอมรับว่าจุดหนึ่งที่หยิบเล่มนี้อ่านก็เพราะว่าคำโปรยนี้ แต่เมื่ออ่านไปแล้วกลับมีเรื่องที่น่าสนใจมากมาย วันนี้เพจรีวิวทุกอย่างที่อ่านออกอยากจะมารีวิวหนังสือดีๆ เล่มนี้ให้ทุกคนอ่านกันค่ะ
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้มีอยู่ทั้งหมด 2 จุดด้วยกันที่อยากจะพูดถึง
ข้อแรกคือวิธีการเล่าเรื่อง เป็นหนังสือที่ผสมกันระหว่างอัตชีวประวัติ + Self help + นิยายแฟนตาซี ที่พออ่านแล้วไม่อยากจะคิดว่าคนเขียนเป็นคุณหมอ นึกว่าเป็นคนเขียนนิยายมากกว่า แค่บทแรกที่เปิดมาก็เล่าเรื่องได้แบบน่าสนใจมาก การเล่าเรื่องของเรื่องนี้เป็นการเล่าชีวิตของคุณหมอ ดร.เจมส์ อาร์ โดตี ตั้งแต่เป็นเด็กยากจนที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเงิน ไม่มีครอบครัวที่ดี ไม่มีโอกาส จนกระทั่งเป็นหมอชื่อดังที่ช่วยชีวิตคนมามากมาย ดร.เจมส์ใช้ชีวิตตัวเองที่มีจุดพลิกผันเหมือนนิยายมาดำเนินเรื่อง ทำให้การเล่าเรื่องทั้งสร้างแรงบันดาลใจเพราะเป็นเรื่องจริงและยังอ่านสนุกเหมือนนิยายอีกด้วย
จุดที่สองคือเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ ตอนแรกที่อ่านรู้สึกว่าเหมือนเป็นหนังสือที่สอนให้นั่งสมาธิ ทำจิตให้สงบเพื่อดึงพลังงานในจิตใจออกมาธรรมดา ยอมรับว่าช่วงแรกๆ ที่อ่านก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นหนังสือดังได้ขนาดนี้ แต่พออ่านไปเกินบทที่ 6 เนื้อหากลับเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในบทที่ 1-5 ดร.เจมส์เล่าวิธีในการทำสมาธิของเขา โดยที่เริ่มจากการทำจิตใจให้สงบ ขอบคุณความสัมพันธ์รอบตัวและคิดถึงสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจน ซึ่งจุดที่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าน่าสนใจมากคือ การคิดถึงสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจน
ในหน้า 96 ได้มีเขียนสรุปในประเด็นนี้ไว้ว่า “ให้คิดถึงเป้าหมายหรือความปราถนาและจินตนาการว่าตัวคุณเองได้ในสิ่งนั้นแล้ว รับรู้อารมณ์ทางบวกจากการบรรลุเป้าหมายนั้นและค่อยๆ เพิ่มรายละเอียดเข้าไปในภาพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ซึ่งอ่านเผินๆ อาจจะเหมือนหนังสือ Self help ธรรมดาทั่วไป แต่จุดที่แตกต่างที่หนังสือเล่มนี้บอกคือ อย่าเพียงแค่ฝันแต่ต้องทำจิตใจให้สงบก่อน เพราะว่าจิตที่สงบนั้นมีพลังในแง่วิทยาศาสตร์และเมื่อเวลาเราคิดถึงสิ่งที่เราอยากได้นั้น อย่ามองภาพตัวเองเหมือนบุคคลที่ 3 แต่ให้เห็นภาพและความรู้สึกเหมือนเราได้สิ่งนั้นมาแล้วจริงๆ
เช่น ถ้าเราอยากเป็นหมอ แทนที่ว่าจะเห็นภาพเราทั้งคนยืนรักษาคนไข้ ให้เห็นมือของเรากำลังรักษาคนไข้และจินตนาการถึงอารมณ์ ความรู้สึก แสง กลิ่น ตอนนั้นจริงๆ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่น่าสนใจมาก เพราะดร.เจมส์ได้ทำตามนี้และได้สิ่งที่ต้องการมาแบบไม่น่าเชื่อหลายๆ ต่อหลายครั้ง โดยที่ก็ได้เล่าให้ฟังผ่านประสบการณ์ตรงของตนเองในหนังสือเล่มนี้
ตอนแรกที่อ่านแล้วดูเหมือนว่าจะทำง่าย ใครๆ ก็ฝันถึงเรื่องที่อยากได้กันทั้งนั้น แต่พอได้ลองทำตามหนังสือเล่มนี้จริงๆ แล้วนั้น พบว่าการที่จะทำให้จิตใจสงบและ “กล้า” ที่จะฝันถึงความฝันของตัวเองนั้นมันไม่ง่ายเลย เพราะหลายๆ ครั้ง คนมักจะ “เผื่อใจ” ให้กับข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นทำให้ไม่กล้าฝันให้ชัดเจนเด่นชัด เพราะ “เผื่อ” ไว้ว่าถ้าไม่ได้ตามนั้นก็จะได้ไม่เสียใจมาก การคิดภาพความต้องการตัวเองให้ชัดเจนนั้น ไม่ได้เพียงแค่ให้พลังเราในการทำสิ่งนั้นเท่านั้น แต่เหมือนเป็นการ “ทุบหม้อข้าว” ที่ทำให้เรามุ่งไปทำสิ่งนั้นอย่างสุดแรงโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ซึ่งก็เลยส่งผลให้เรามีแนวโน้มสูงขึ้นมากที่จะได้ตามฝันที่เราต้องการ
โดยภาพรวม หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่แนะนำค่ะ เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเป็นหนังสือดังที่มีคนเอามาเป็นแรงบันดาลใจและพูดถึงมากมาย เสน่ห์สำคัญที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือ แต่ละคนที่อ่าน จะได้ Takeaway หรือ ความคิดไปคิดต่อต่างกัน สิ่งที่เราได้ย่อมไม่เหมือนสิ่งที่ทุกคนกำลังจะได้รับจากหนังสือเล่มนี้แน่ๆ เพราะเล่มนี้เปิดโอกาสให้เราตีความและหาข้อคิดที่มีประโยชน์กับเราในจังหวะเวลานั้นๆ ของชีวิต เป็นหนังสือเล่มที่เชื่อว่าถ้ากลับมาอ่านอีกทีต้องมีความรู้สึกกับเล่มนี้ที่เปลี่ยนไปทุกครั้งที่อ่านแน่นอนค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับรีวิว Into the magic shop เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ คิดว่านักอ่านหลายๆ ท่านน่าจะต้องมนตร์สะกดของร้านเวทมนตร์แห่งนี้อย่างแน่นอน ใครที่ตกหลุมรักหลังอ่านรีวิวจบก็อย่าลืมไปติดตามอ่านกันต่อนะคะเป็นอีกเล่มที่เมื่อหยิบมาอ่านจะได้อะไรดีๆ กลับไปมากมายแน่นอน สุดท้ายนี้ขอบคุณเพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก ที่นำร้านเวทมนตร์อันน่าหลงใหลนี้มารีวิวให้เราได้รู้จักกันนะคะ