วันนี้หนังสือที่เรานำมารีวิวเปลี่ยนแนวจากสาวน้อยอ่อนหวานมาเป็นเจ้าหญิงตัวร้ายกันบ้างกับนิยายเรื่อง งานเลี้ยงแห่งวสันตกาล นิยายจีนโบราณ ที่ว่าด้วยเรื่องราวขององค์หญิงใหญ่แสนดุร้ายที่ชุบเลี้ยงฮ่องเต้น้องชายจนเป็นใหญ่ สร้างความหวาดกลัวแก่เหล่าขุนนางไปทั่วแต่สุดท้ายมิวายโดนประหารชีวิต แต่กลับไปเกิดใหม่ในร่างของสาวน้อยแสนใสซื่อพร้อมทั้งได้พบเจอกับศัตรูคู่แค้นฉนวนเหตุที่ทำให้เธอถูกประหาร ทำให้องค์หญิงร้ายในคราบสาวน้อยต้องลงมือแก้เผ็ดกันสักหน่อย แค่อ่านเรื่องย่อคร่าวๆ นักอ่านทั้งหลายคงสนใจเนื้อเรื่องกันแล้ว เรามาพบกับรีวิวฉบับเต็ม นิยายจีนโบราณ งานเลี้ยงแห่งวสันตกาล จากเพจ คุณชายรีวิวหนังสือ กันได้เลยค่ะ
นิยายจีนโบราณ “งานเลี้ยงแห่งวสันตกาล” องค์หญิงแสนร้ายเกิดใหม่ในคราบคุณหนูแสนซื่อ
เรื่องนี้กล่าวถึงนางเอกนามว่า ‘หลี่ไหวอวี้’ หรือที่รู้จักกันในนามองค์หญิงใหญ่ตันหยาง ตอนมีชีวิตอยู่นางเหมือนดาวหายนะกดข่มขุนนางในวังหลวง เลี้ยงอนุชายไว้เกินสิบนิ้วจะนับ มือทั้งสองข้างเคยสังหารคนดีชุบเลี้ยงคนชั่ว กล่าวได้ว่าช่วงที่นางมีชีวิตอยู่ตกเป็นที่กล่าวขานไม่รู้จบ ซึ่งล้วนแต่เป็นคำสาปแช่งให้นางไม่ตายดี
ภายหลังนางได้รับพระราชทานยาพิษจากฮ่องเต้ที่นางเลี้ยงดูมากับมือ ทั้งยังมีเจ้าเมืองจื่อหยาง ‘เจียงเสวียนจิ่น’ เป็นผู้เปิดประตูยมโลกส่งนางข้ามแม่น้ำเหลือง บรรดาขุนนางและราษฎรในแคว้นต่างโห่ร้องยินดีกับการตายของนาง จึงเกิดคำถามตามมาว่าทำไม? นางเป็นคนเช่นไรกันแน่ถึงได้สร้างความเกลียดชังให้ผู้คนมากมายเพียงนั้น
คุณชายเลยวาดนิ้วชี้จิ้มลงบนไอโพนรุ่น 3310 ต่อสายตรงบอกกับเบื้องบนว่านี่คือนางเอกนะ!! คุยกันอยู่ราวๆ สามสิบร้อยถ้วยน้ำชา เบื้องบนจึงพยักหน้าสามหงึกส่งให้องค์หญิงใหญ่มาเกิดใหม่ในร่างของคุณหนูไป๋ ‘ไป๋จูจี’ บุตรีขุนนางใหญ่ มันจะไม่อะไรเล๊ยยยย ถ้าไป๋จูจีไม่ใช่หญิงปัญญาอ่อน สูญเสียมารดา ถูกอนุลูกตะขบดงแถวนั้นจิกรังแก แต่ยังไม่แย่เท่าได้พบกับคู่อริเก่าอย่างเจียงเสวียนจิ่น
องค์หญิงใหญ่ของชายเลยวางแผนขย้ำท่านเจ้าเมืองจื่อหยาง บุรุษผู้ขึ้นชื่อเรื่องคุณธรรม ประพฤติตัวอยู่ในกฏทุกกระเบียดนิ้ว หยิบใช้มารยาความด้านหน้า ความโนวแคร์ ความปากกระกบ ใบหน้าซบอกอุ่นๆ ขาวๆ และวาทะศิลป์อันร้ายกาจเข้าสู้ แต่การเอาแค้นทวงคืนของนางครั้งนี้ มีเรื่องราวมากมายพลิกผันไม่เป็นตามแผน โดยเฉพาะหัวใจนางร้ายของนาง ยอมเสี่ยงวางแลกความเชื่อใจจากเขาอีกครั้ง ผลจะออกมาเป็นแบบไหน ชายจะเล่าให้ฟัง
คุณชายรีวิวสายวิเคราะห์
นิยายเรื่องนี้วางโครงเรื่องไว้น่าสนใจตั้งแต่เปิดหน้าแรก พระนางคู่แค้นคู่รัก สืบสวน การเมือง ผสมกันมาอย่างละนิดละหน่อย มีความคอมเมดี้สุดโต่งของนางเอกมาช่วยเพิ่มความสนุกตั้งแต่นางมาอยู่ในร่างใหม่ วางเกมเข้าหาพระเอก เพื่อบรรลุเป้าหมายสองประการ ทวงแค้นกับเขา และช่วยเหลือพวกพ้องที่ถูกพระเอกจับตัวไว้
ในระหว่างที่นางเดินหน้ารุกใส่พระเอกอยู่ นักเขียนเองจะค่อยๆ เผยตัวตนของทั้งคู่ให้เราได้ลุ้นตาม สองคนนี้จะเป็นคู่รักหรือคู่แค้นกันแน่ ความน่าติดตามอยู่ตรงนี้เอง พระเอกในฐานะเจ้าเมืองจื่อหยาง เมียบ่าวเมียอุ่นเตียงพี่ไม่เคยมี นิสัยโดยกรอบนอก บ้างาน รักบ้านเมือง เคารพเบื้องบน นิยมความถูกต้อง และ…หล่อมาก มีออร่อขุนนางหนุ่มไข่หอม สวมชุดฉางฝูก็ยังดูมีมาดของความสูงศักดิ์เกินเอื้อม
นักเขียนนิยามตระกูลเจียงไว้น่าสนใจทีเดียว กล่าวว่า บุรุษในตระกูลเจียงทุกรุ่น ถ้าเป็นบุตรหลานฝ่ายชายอย่างพระเอก ไม้โบยก้นกับกฏของตระกูลคือตัวเร่งให้เขาโตแบบก้าวกระโดด แต่ถ้าเป็นบุตรหลานฝ่ายหญิงมักจะถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ ด้วยเหตุนี้เองพระเอกของชายจึงมีสองบุคลิก ด้านหนึ่งเป็นขุนนางผู้รักษากฎระเบียบอย่างเข้มงวด อีกด้านหนึ่งคือบุรุษหนุ่มขี้อาย เข้าหาสตรีไม่เป็น ปากไล่ แต่ใจกวักให้นางมานั่งอยู่ข้างๆ พระเอกสไตล์นี้น่าจะถูกใจหลายๆ คน
มาทางฝั่งนางเอกบ้าง มีสองบุคลิกเหมือนกับพระเอก ขึ้นอยู่กับจะแสดงด้านไหนปิดซ่อนด้านใดไว้ สติปัญญานางสู้ท่านเจียงไม่ได้แน่ แต่ถ้าเรื่องมารยาร้อยบุปผา นางอยู่เหนือเขาสิบเท่า สนุกสิทีนี้ เพราะกลวิธีที่นางใช้กับเขาในร่างคุณหนูไป๋คือลูกตื้อ เปิดเกมรุกเช้า กลางวัน เย็น พูดสิบคำบอกชอบกลิ่นตัวเขาไปแล้วเก้า จูบเขาไปแล้วห้ารอบ ศีลพระเอกหรือจะอยู่ครบ แต่ในความฮาๆ ก๋ากั่นของนางเอกได้ซ่อนตัวตนที่แท้จริงของนางเอาไว้ให้เราวิเคราะห์ตาม อย่าเพิ่งด่วนเกลียดนางเอก เวลาถึงบทคลี่คลายปมตัวละคร อาจทำให้หลายคนซาบซึ้งเสียน้ำตาได้หลายทำนบ ตรงนี้ดี
ทิ้งท้ายสไตล์คุณชาย
ในภาพรวมสำหรับชาย ตัวละครหลักๆ ในเรื่องอย่างท่านลู่(สหายนางเอก) ท่านเจ้าเมือง(พระเอก) และองค์หญิงใหญ่ตันหยางในร่างใหม่ สามคนนี้คือตัวชูเรื่อง โดยเฉพาะกับองค์หญิงใหญ่ บทบาทของนางใน 2 เล่มแรกกับ 2 เล่มท้ายจะดีงามต่างกัน เน้นฮาก่อน แอ่วผู้บ่าวพาคนอ่านอมยิ้มน้อยๆ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นบทขมๆ คอ อย่างการเท้าความถึงอดีตของนางกับน้องชายที่เป็นฮ่องเต้ นางเลี้ยงฮ่องเต้น้อย ทำทุกอย่างให้น้องเท่าที่พี่สาวคนนึงจะทำให้ได้ ยอมแม้กระทั่งเป็นตัวร้าย สร้างภาพลักษณ์เสียๆ เพื่อถ่วงดุลอำนาจขุนนางเสริมบัลลังก์มังกรของน้องชายให้แกร่งขึ้น สุดท้ายเป็นไง… นางไม่พ้นถูกน้องชายที่นางรักที่สุดสั่งฆ่า ถูกพระเอกในตอนนั้นมองว่านางคือคนร้าย ถ้าใครเก็บรายละเอียดเก่ง เราจะเข้าใจบาดแผลของนางแล้วอินไปกับเรื่องราวเหล่านั้น
ข้อเสียหรือจุดติมีสองข้อ…
– นักเขียน วางบอสของเรื่องไว้จบใน 4 เล่ม แน่นอนเราคาดหวัง แต่พอถึงตรงบทจบบอส ความจุดๆ.. ในหัวมาเต็ม เช่นเดียวกับการปิดฉากเรื่องน้องชายนางเอก ทั้งที่บาดแผลระหว่างพี่น้องลึกช้ำ เสียดายที่เขาใส่มาเพื่อผ่าน
– งานแปลกับกองงานเบื้องหลัง เรื่องนี้ใช้ 2 นักแปล เล่ม 1 – 2 ใช้นักแปลคนหนึ่ง ส่วนเล่ม 3 – 4 ใช้อีกคนหนึ่ง ชายไม่รู้จะติใครดี หรือผิดพลาดตรงส่วนนักแปล คนเกลาคำ หรือกองตรวจงาน แต่ถ้างานแปลออกมาแบบไทยพีเรียด แต่โดยตัวนิยายเป็นนิยายธีมแปลจีนโบราณ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่นิยายแปลที่เราอ่านๆ กันอยู่
ยกตัวอย่างเล่ม 1 – 2 กลุ่มคำว่า… เทียว ดีไม่หยอก กาลก่อน กระไร ไหนจะคำปัจจุบัน ประเทศ คำหลุดๆ เยอะมาก แล้วพองานภาษาไม่นิ่ง มันส่งผลกับตัวละครพระเอกด้วย อย่าลืมพี่เขามีสองบุคลิก มิติในตัวละครเยอะ แต่พอเจองานแปลรังแก จากท่านเจ้าเมืองผู้งามสง่ากลายเป็นเด็กน้อยสามขวบ หนักกว่านั้นคือนิสัยเหมือนผู้หญิง ปากชายอิหยังหนอแม่ อิหยังหนอพ่อวนอยู่ตรงนั้น
พอมาเทียบกับเล่ม 3 – 4 ชัดเลย คนนี้แปลละเอียดกว่า ถอดคาแรกเตอร์ตัวละครได้ดีกว่าคนแรก พระเอกจะอยู่ในอารมณ์ไหน ตัวละครกับหลักบรรยายไปในทางเดียวกัน ไม่หลุดลุคแบบสองเล่มแรก แต่ก็ยังมีจุดหนึ่งที่เหมือนกันคือการใช้คำอย่างกลุ่มคำเช่น…จักต้อง เชียวนา หรือการนำคำอย่าง คนกเฬวราก พัสตราภรณ์
หลักภาษาไม่ผิด ถ้าเขาใส่มาหน้าสองหน้า เรายังพอมองข้ามกันได้ แต่จัดมาซะถี่ยิบ วนคำซ้ำๆ อยู่แบบนั้น เพียงขึ้นอยู่กับว่าคำไหนจะมาก่อนกันระหว่าง กระไร-กาลก่อน-จักต้อง ดังนั้นชายขอฝากเรื่องงานภาษาเอาไว้หน่อยเถิดแม่เอย ชายอ่านแล้วขมับปวด นิยายดีแต่พังเพราะงานแปลมีให้เห็นอยู่หลายเรื่อง เรื่องนี้จึงได้ความชอบจากชายไปประมาณ 6.5 - 7 คะแนน ยังถือว่าเยอะ เพราะยังมีส่วนที่ชายชอบมากกว่าติ ซึ่งถ้าเราไม่อะไรกับสำนวน ความสนุกมีให้ แต่ถ้าเราติดสำนวนแปลดี ๆ ให้ปล่อยผ่าน
จบไปแล้วสำหรับบทความรีวิวดีๆ จากเพจ คุณชายรีวิวหนังสือ นะคะ เรียกได้ว่านิยายจีนโบราณเรื่องนี้นางเอกของเราไม่ใช่สาวใสๆ คุณหนูเรียบร้อยดุจผ้าพับอีกต่อไป ฉีกบทนางเอกแสนอ่อนแอบอบบางไปเลยทีเดียวกลายเป็นสาวน้อยก๋ากั่นสายรุกจนพระเอกของเราเสียรูปกันเลยทีเดียว หวังว่าจะถูกใจนักอ่านไม่น้อยนะคะกับหนังสือเรื่อง งานเลี้ยงแห่งวสันตกาล เล่มนี้