หนังสือที่นำมารีวิวในวันนี้นั้นเป็นอีกเล่มที่จะช่วยผลักดันให้คุณสามารถเป็นคนที่ Productive ตามชื่อหนังสือได้เลย ส่งเสริมให้คุณมีไฟในการทำงานและพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ก็สามารถรักษาสมดุลการใช้ชีวิตและการทำงานควบคู่กันไปไม่หมดไฟอย่างแน่นอน รีวิววันนี้ได้เพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก ที่จะมาแชร์ถึงวิธีการทำให้ตัวเอง Productive ตามชื่อหนังสือเล่มนี้ใน รีวิว The Productivity Project
รีวิว The Productivity Project เพิ่มพลังไฟในตัวคุณให้ลุกขึ้นมาทำสิ่งใหม่ๆ
“ถ้าอยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคน Productive ควรเริ่มต้นอย่างไร นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัย เราเป็นคนนึงที่พยามหาวิธีต่างๆ เพื่อให้ตัวเองเป็นคน Productive เพราะจุดมุ่งหมายคือการใช้ชีวิตเรื่องการงานที่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงมีพลังเหลือเฟือ มีเวลาให้ตัวเองได้ทำสิ่งชอบด้วยหรือที่ใครๆ รู้จักในชื่อ “Work-Life Balance”
แต่ความ Productive ที่ดีและเหมาะสมกับตัวเราคืออะไร ?
จริงๆ แล้ว เราก็เป็นคนขี้เกียจมากๆ คนนึงและจัดสรรเวลาไม่ค่อยดีนัก ทำให้กระทบกับงานและชีวิตส่วนตัว พอผลของงานไม่ดี เราเครียด หมดพลัง แน่นอนมันกระทบกับเรื่องอื่นๆ ด้วยค่ะ
เราพยามหาวิธีต่างๆ ที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเรา จนได้มาพบกับหนังสือเล่มนึงที่มีชื่อว่า “โปรเจกต์ลับคนไฟลุก” หรือ “The Productivity Project” เราได้อ่านแล้วก็พบว่าเนื้อหาตรงกับสิ่งที่เราต้องการและนำไปใช้ในการเพิ่มความ Productive ได้ เราจึงอยากนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Chris Bailey เขาทำการทดลองกับตัวเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า “ประสิทธิภาพ” ของการทำงาน เขาศึกษาค้นคว้าโปรเจคเป็นเวลาหนึ่งปี ทั้งทดลองวิธีการของผู้อื่นที่เค้าว่าดีและลองวิธีจากสิ่งที่เขาคิดค้นเองจนได้วิธีที่ดีสุด อันนำมาสู่การเขียนหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้ คือตัวช่วยที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่มีความ Productive สามารถทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่การวางรากฐานที่สำคัญ อย่างการตั้งเป้าหมาย หาความหมายที่แท้จริงในการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองครั้งนี้ ไปสู่การปรับทัศนคติการทำงาน ฝึกฝนเรื่องการจัดเวลาและการเปลี่ยนแปลงจากข้างในอย่างเรื่องสมาธิ ความจำ รวมไปถึงการเลือกอาหารการกินที่ส่งเสริมต่อสุขภาพร่างกายและสมองให้มีพลัง เพราะการจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวนั้น ก็เหมือนการต่อสู้ ที่ต้องมีทั้งเกมรุกและเกมรับเช่นกัน
ซึ่งในเนื้อหาก็จะแทรก ‘ภารกิจ’ หรือ ‘แบบฝึกหัด’ เพื่อนำไปฝึกฝน และพัฒนาสำหรับตัวผู้อ่านอีกด้วยเราก็พยามเรียนรู้เทคนิคต่างๆ แล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับรูปแบบชีวิตของเราสุดท้ายผลลัพธ์ต่างๆ ก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เรามีพลังในการทำงานมากขึ้น ผลของงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญคือเรามีเวลาให้กับสิ่งที่เรารักด้วย หากใครกำลังมองหาหนังสือเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน หรือเพิ่มความ Productive ให้แก่ตนเอง เราก็ขอแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ
จาก “เฉื่อยชา” เป็น “ไฟลุก”
ทุกคนล้วนอยากมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิต สองสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่หากมีเหตุผลที่ลึกซึ้งมีความหมายและมีการวางแผนที่ดี คุณก็จะสามารถรักษาความมุ่งมั่นในระยะยาว เพื่อทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จได้
-การผัดวันประกันพรุ่งคืออุปสรรคที่ขัดขวางการสร้างความสำเร็จให้มากขึ้น มันคือช่องว่างระหว่างความตั้งใจของคุณกับการลงมือทำ คุณต้องเอาชนะจิตใจตัวเองให้ได้
-การใช้เวลากับการทํางานมากเกินไปไม่ได้แปลว่าเกิดประสิทภาพ ที่จริงควรใส่ใจกับการบริหารพลังงานและสมาธิมากกว่าการบริหารเวลา สำหรับเวลานั้นยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่คงไม่เกิดประโยชน์หากเวลาที่คุณเสียให้กับงานนั้นไม่เกิดผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ
-การเพิ่มพื้นที่ในการจดจ่อช่วยให้คุณนึกแนวคิดที่ยอดเยี่ยมได้มากขึ้น พยายามลดทอนงานที่ไม่สำคัญ รวมถึงสิ่งที่เข้ามารบกวนสมาธิและพลังงานของคุณ
-สมองไม่สามารถจดจําทุกอย่างได้ ควรเขียนงานและสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในหัวออกมา จากนั้นก็พิจารณา ว่าคุณสามารถลงมือทำสิ่งนั้นได้เลยหรือไม่ หากคำตอบคือได้ ก็ให้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร แล้วลงมือทําทันทีถ้าเป็นได้
-การพัฒนา “กล้ามเนื้อสมาธิ” ให้แข็งแกร่งจะช่วยให้คุณจดจ่อกับงานที่กำลังทำอยู่ได้มากขึ้น ส่งผลให้ใช้เวลาและสมาธิได้อย่างมีประสิท ภาพ
-พลังของการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป คือแม้มันจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์และหลายเดือน การเปลี่ยนแปลงที่คุณสั่งสมมา จะก่อให้เกิดความสําเร็จในระยะยาว
และทั้งหมดคือรีวิว The Productivity Project หนังสืออีกเล่มที่จะมาส่งเสริมความ Productive ในตัวของคุณให้เป็นคนมีไฟมีพลังอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไรก็มีแรงผลักดันส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพของตนเองเสมอ ก็หวังว่าใครที่กำลังหมดไฟหรือกำลังรู้สึกเหนื่อยในการเริ่มต้นอะไรสักอย่าง เล่มนี้จะชี้ทางออกหาทางช่วยให้คุณได้ไม่มากก็น้อยนะคะ สุดท้ายนี้ขอบคุณเพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก ที่นำเทคนิค Productive ดีๆ ในหนังสือเล่มนี้มาแชร์กันค่ะ