ใครที่เคยดูซีรีส์ It’s Okay to Not Be Okay จะต้องได้ฟังเรื่องราวนิทานที่ โกมุนยอง นางเอกของเรื่องเป็นผู้แต่งขึ้นมาภายในเรื่องอย่างแน่นอน แต่นิทานทั้งหมดนั้นแท้จริงแล้วเป็นนิทานจริงๆ ที่ถูกแต่งขึ้นแต่ถูกนำไปใส่เอาไว้ในซีรีส์ด้วยเหตุผลเพราะมีความนัยแฝงเอาไว้อย่างน่าสนใจ ในวันนี้ Reeeed จึงจะพานักอ่านทุกคนไปทำความรู้จักกับนิทานทั้ง 5 เรื่องที่โกมุนยองได้เล่าให้เราฟังกันค่ะ
รีวิวนิทาน 5 เรื่องของโกมุนยองจาก It’s Okay to Not Be Okay
เด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย (Boys who grew up with nightmare)
เรื่องราวของเด็กชายที่เมื่อต้องหลับนอนจะเผชิญกับฝันร้ายทุกค่ำคืนจนทำให้เขานั้นกลัวการนอนหลับในที่สุด เด็กชายตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากแม่มดให้ช่วยลบความทรงจำที่เลวร้ายของเขาทิ้งโดยยอมแลกกับอะไรก็ได้ตามแต่แม่มดต้องการ หลังจากวันนั้นเด็กชายก็ไม่เคยพบกับฝันร้ายอีกเลยแต่ชีวิตของเขาก็ไม่เคยพบกับความสุขเช่นกัน จนถึงวันที่แม่มดกลับมาทวงถามสัญญากับเด็กชายนั้นคือการพาวิญญาณของเขาไป พร้อมได้บอกกล่าวกับเด็กชายว่า มีเพียงคนที่เก็บความทรงจำอันเลวร้ายและเจ็บปวดเอาไว้ในใจเท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างแข็งแกร่างและจะค้นพบความสุขได้หลังจากยอมรับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ส่วนคนที่ไม่สามารถผ่านไปได้ก็ยังคงเป็นแค่เด็กน้อยที่ยังไม่รู้จักโตเท่านั้น
เด็กน้อยซอมบี้ (The Zombie Kid)
กล่าวถึงเด็กชายที่เกิดมาแตกต่างจากคนอื่น นั้นเพราะตัวเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหิวโหยอยู่เสมอและไร้ความรู้สึกต่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น แม่ของเด็กชายตัดสินใจปกปิดความลับนี้จากหมู่บ้านด้วยการกักขังเขาเอาไว้ในห้องใต้ดินและหาอาหารมาให้ลูกของเธอกินอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งเกิดโรคระบาด สัตว์ต่างๆ ล้มตาย อาหารคาดแคลน ผู้คนต่างจากหมู่บ้านแห่งนี้ไป แต่แม่ไม่สามารถทิ้งลูกชายของตนเองไปได้ เมื่อปราศจากอาหารให้ลูกเธอจึงเลือกเสียสละร่างกายทีละส่วนเพื่อประทังความหิวของเด็กชาย ก่อนที่สุดท้ายเหลือเพียงแต่ร่างกายของเธอ เธอเปิดประตูที่ขังเด็กชายเอาไว้พร้อมกับกอดเขาเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อมอบร่างกายนี้เป็นอาหารให้ลูก พร้อมๆ กับเด็กชายที่กอดเธอตอบเช่นกันและมีคำพูด “แม่ช่างอบอุ่นเหลือเกิน” สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่เด็กชายปรารถนาอย่างที่สุดไม่ใช่อาหาร แต่เป็นความรักและความอบอุ่นจากแม่ของเขาต่างหาก
เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ (Spring Dogs)
เจ้าหมาตัวน้อยที่ถูกผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่ประจำหมู่บ้าน ในเวลากลางวันมันมักจะเป็นมิตรกับผู้คน ร่าเริง สดใส น่ารัก แต่เมื่อยามคำ่คืนกลับเต็มไปด้วยเสียงแห่งความโศกเศร้าและทรมาน หากแท้จริงแล้วเจ้าหมาเต็มไปด้วยความต้องการที่จะเอาเชือกออกและวิ่งเล่นอย่างอิสระในอาณาบริเวณหมู่บ้านมากกว่าถูกผูกติดไว้กับต้นไม้ที่กันลมฝนให้มันเสียอีก เรื่องนี้กล่าวให้เห็นถึงการที่เรานำตัวเองไปผูกติดกับบางสิ่งไว้เป็นเวลานาน จนหลงลืมวิธีการปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการ เหมือนเจ้าหมาที่เคยชินกับเชือกที่ผูกเอาไว้จนหลงลืมวิธีการเอาเชือกออกไปในที่สุด
มือ, ปลาแองเกลอร์
เด็กน้อยคนหนึ่งเติบโตขึ้นมาในครอบครัวเศรษฐีผู้มั่งคั่ง เธอมีผิวพรรณผูดผ่องและหน้าตางดงามหาที่เปรียบได้ ผู้เป็นแม่เห็นดังนั้นจึงสัญญาว่าจะเก็บเดือนเก็บตะวันมาให้ลูกของเธอให้จงได้ เมื่อลูกเติบโตขึ้นและทานอาหารแม่จะเป็นคนคอยป้อนให้เธอเสมอ เมื่อลูกเริ่มเดินได้แต่แม่ยังให้ลูกขี่หลังของตนแทน ทุกกิจวัตรผู้เป็นแม่จะทำแทนเธอเสมอ จนกระทั่งถึงวันที่เธอไม่สามารถทำทุกอย่างได้อีกต่อไปและต้องการให้ลูกตอบแทน แต่ลูกของเธอกลับไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่างนั้นเพราะที่ผ่านมาแม่เธอทำแทนเธอเสมอ แม่เห็นดังนั้นก็โกรธจัดและตัดสินว่าทุกอย่างนั้นเกิดจากความผิดของลูกที่เธอเลี้ยงดูมาแทนจะคิดว่าเป็นความผิดตนเองที่ไม่เคยปล่อยให้ลูกทำอะไร
ผจญภัยตามหาใบหน้าที่แท้จริง (Looking For Real Real Face )
เรื่องราวของ 3 คนที่ต่างถูกแม่มดขโมยใบหน้าแท้จริงของพวกเขาไปเป็นเหตุให้ทั้ง 3 ต้องร่วมผจญภัยออกเดินทางด้วยกันเพื่อตามหาใบหน้าที่สูญหายไปของตนเอง จนแม่มดปรากฎตัวอีกครั้งและนำตัวเจ้าหญิงกระป๋องกับชายสวมหน้ากากไปพร้อมร่ายคำสาปให้พวกเขาไม่มีทางเจอกับใบหน้าแห่งความสุขได้ก่อนนำทั้งสองไปขังไว้ยังสถานที่แห่งหนึ่ง จนลุงกล่องหาสถานที่ที่ทั้งสองถูกจับขังไว้จนเจอ แต่ทางเขาแคบมากจนเขาต้องถอดกล่องออกไปจึงจะสามารถเขาไปช่วยทั้งสองได้ หลังจากช่วยทั้งสองคนออกมาและเห็นใบหน้าเลอะเทอะของลุงกล่องทั้งสองคนก็หัวเราะจนหน้ากากหลุดออกมา ทำให้รู้ว่าแท้จริงแม่มดไม่ได้ขโมยใบหน้าของพวกเขาไป แต่เป็นความกล้าที่จะมีความสุขต่างหาก
อย่าลืมติดตามบทความแนะนำและรีวิวหนังสือ , นักเขียน ได้ใหม่ที่ article.reeeed นะคะ หรือใครกำลังมองหาร้านหนังสือออนไลน์ก็เข้ามาเลือกหนังสือได้ที่ Reeeed เรามีหนังสือมากมายรอนักอ่านทุกท่านให้มาอ่านค่ะ เลือกจะ Read เลือก Reeeed นะคะ