มาร์กาเร็ต แอตวูด (Margaret Atwood) นักเขียนแนวสตรีนิยมชาวแคนาดาที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะผลงาน The Handmaid’s Tale ที่ได้รับความนิยมจนถูกนำไปดัดแปลงเป็นซีรีส์และยกย่องว่าเป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่มีคุณค่าอย่างมากต่อวงการวรรณกรรมโลก นอกจากนี้ยังมีผลงานเรื่องสั้นอีกหลายเรื่องของมาร์กาเร็ตที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเช่นกัน อาทิ Oryx and Crake และ The Blind Assassin ที่มีเนื้อหาและเอกลักษณ์ในการเล่าเรื่องโดดเด่นไม่แพ้กันส่งผลให้เธอได้รับการยกย่องเป็นนักเขียนอีกคนที่มีผลงานยอดเยี่ยมและสร้างสรรค์ที่สุดจนได้รับรางวัล Nobel Prize in Literature ในปี 2019
มาร์กาเร็ต เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1939 ออตตาวา แคนาดา เริ่มต้นการงานเขียนตั้งแต่ช่วงงปี 1960 ก่อนผลงานแรกของเธอจะถูกเผยแพร่ในปีต่อมากับเรื่อง Double Persephone ที่กระแสตอบรับดีอยู่ไม่ใช้น้อยและกลายเป็นแรงผลักดันเธอให้เดินบนเส้นทางของนักเขียนสรรณกรรมอย่างเต็มตัว มาร์กาเร็ตมีบทบาทในการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและสิทธิของสตรีในสังคม งานเขียนของเธอจึงกล่าวได้ว่าเป็นแนวสตรีนิยม นอกจากนี้เธอมักจะสำรวจประเด็นต่างๆ ของยุคสมัยปัจจุบัน และได้นำจับประเด็นเหล่านี้มานำเสนอในรูปแบบการเสียดสีและสะท้อนตัวตนผ่านผลงานร่วมสมัยของเธออีกด้วย
ปัจจุบันมาร์กาเร็ตเป็นนักเขียนที่มีผลงานกว่า 35 เล่ม ทั้งยังได้ก่อตั้งมูลนิธิ Margaret Atwood Foundation เพื่อให้การสนับสนุนกับหลายๆ องค์กรที่เกี่ยวข้องด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิของผู้หญิง เธอกลายเป็นอีกหนึ่งนักเขียนที่เป็นสัญลักษณ์ของสตรีนิยมในปัจจุบัน หลายบทความที่เธอเขียนเองก็ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารมากมาย อาทิ The New York Times และ The Guardian ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องที่นำความไม่แน่นอนของชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาร้อยเรียงเป็นบทประพันธ์เพียงพอให้เธอกลายเป็นอีกหนึ่งนักเขียนแห่งยุคได้
ผลงานของ มาร์กาเร็ต แอตวูด (Margaret Atwood)
มือสังหารบอด (The Blind Assassin)
เป็นนิยายที่ได้รับรางวัล Booker Prize ในปี 2000 เรื่องราวที่มีความซับซ้อนลึกซึ้งและเป็นการนำเสนอความเชื่อมโยงระหว่างเรื่องราวที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกัน ในขณะที่มีฉากตลกขบขันและฉากโศกเศร้าปะปนในเนื้อหาสลับกันไป โดยเริ่มจากการตายอย่างลึกลับของหญิงสาวชื่อ ลอร่า เชส ในปี 1945 สิบปีต่อมา ไอริส น้องสาวของลอร่า เล่าถึงความทรงจำของเธอในวัยเด็ก และการตายอันน่าสยดสยองที่ทำให้ประวัติครอบครัวที่มั่งคั่งและแปลกประหลาดของพวกเขา สิ่งที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวของไอริสคือบทต่างๆ จากนิยายอื้อฉาวที่สร้างชื่อเสียงให้กับลอร่า เรื่องราวที่ค่อยๆ เปิดเผยความลับที่ตามหลอกหลอนครอบครัวเชสมาอย่างยาวนาน โดยมาบรรจบกันในบทสรุปสุดท้ายที่น่าอัศจรรย์และน่าทึ่ง
เรื่องเล่าของสาวรับใช้ (The Handmaid’s Tale)
นวนิยายไซไฟดิสโทเปียของมาร์กาเร็ต บอกเล่าเรื่องราวในอนาคตอันใกล้นี้ที่สังคมได้เปลี่ยนแปลงอย่างมากในสถานที่แห่งหนึ่งที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาและปัจจุบันเรียกว่าสาธารณรัฐกิเลียด ปกตรองโดยระบอบเอกเทวนิยมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งไม่สงบในสังคมและอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างรวดเร็ว “ออฟเฟรด” หญิงรับใช้คนหนึ่งในกิเลียดจะต้องผ่านความทุกข์ทรมานในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในสังคมที่ถูกควบคุมอย่างสูงสุดโดยการเป็น Handmaid ผู้หญิงที่มีภาระผูกพันในการผลิตบุตรให้กับคู่สามีซึ่งไม่สามารถมีลูกได้เอง เป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ทางเพศในการควบคุมการเมืองที่สามารถสร้างความสนใจและกระตุ้นการคิดเชิงวิจารณ์ต่อการต่อสู้ของผู้หญิงในสังคมปัจจุบัน
คำให้การจากพยานปากเอก (The Testaments)
ภาคต่อของ The Handmaid’s Tale เวลาผันผ่าน จากรุ่นสู่รุ่น แต่กิเลียดก็ยังเป็นดินแดนแห่งการช่วงชิงอำนาจและมีการปกครองที่กดขี่อยู่เช่นเดิม เล่าเรื่องราวผ่านทางมุมมองของสาวน้อยที่ชื่อว่า แอกเนส เด็กสาวที่ถูกทอดทิ้งจากครอบครัวของเธอและเดินทางไปสู่สาธารณรัฐกิเลียด ประเทศที่สังคมที่กำลังถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล แอกเนสได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเลือกเข้าไปในโครงการผสมผสานความสามารถและความปรารถนาเพื่อทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง นวนิยายที่ท้าทายสังคมอย่างต่อเนื่องถัดจาก The Handmaid’s Tale เพียงแต่ได้บอกเล่ามุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งความน่าสนใจของเนื้อหาและประเด็นทางสิทธิมนุษยชน
และทั้งหมดคือประวัติและผลงานบางส่วนของ มาร์กาเร็ต แอตวูด (Margaret Atwood) นักเขียนแนวสตรีนิยมชาวแคนาดาที่กล่าวได้ว่าได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน สุดท้ายนี้หากนักอ่านอยากรู้จักนักเขียนท่านอื่นๆ ก็สามารถติดตามบทความใหม่ๆ ได้ที่ article.reeeed นะคะ เรามีบทความรีวิวแนะนำหนังสือและนักเขียนอัพเดทอยู่เสมอ หรือหากใครมองหาร้านหนังสือออนไลน์แวะมาเลือกชมได้ที่ Reeeed.com สุดท้านนี้เลือกจะ Read เลือก Reeeed นะคะ