หนึ่งในนักเขียนชื่อดังที่เชื่อว่าคนชอบอ่านหนังสือจะต้องคุ้นเคยชื่อของเขาเป็นอย่างดีนั่นก็คือ “ประภาส ชลศรานนท์” แม้ว่าจะเคยหรือไม่เคยอ่านผลงานของเขาก็คงจะคุ้นหูกับชื่อนี้กันอยู่บ้าง ผลงานชื่อดังหลายเรื่องของนักเขียนท่านนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและเขาได้กลายเป็นนักเขียนในดวงใจของนักอ่านมากมาย
ประภาส ชลศรานนท์ เกิดและโตที่จังหวัดชลบุรี จบปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย นอกจากผลงานด้านการเขียนที่ยอดเยี่ยมแล้ว เขายังมีความสามารถทางด้านดนตรีและด้านอื่นๆ อีกด้วย เขาคือผู้ร่วมก่อตั้งวงเฉลียง วงดนตรีชื่อดังวงแรกๆ ที่บุกเบิกเพลงแนวแปลกใหม่ในวงการเพลงของไทย เขาเป็นนักคิด นักดนตรี นักแต่งเพลง ผู้กำกับ ผู้อำนวยการผลิต บรรณาธิการ และยังเป็นศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2561 เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถเต็มเปี่ยมรอบด้านเสียเหลือเกิน
เส้นทางการก้าวเข้าสู่วงการหนังสือของเขาเริ่มต้นจากการเขียนเรื่องสั้นชื่อสุธี ส่งนิตยสารเปรียว ในขณะที่กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่วงการโทรทัศน์และวงการเพลง ทำงานเขียนบท เขียนเพลง โดยที่ระหว่างนั้นก็ยังทำงานเขียนนิตยสารอยู่ด้วย ผลงานของเขาในวงการสายบันเทิงมีอยู่มากมาย แต่หากพูดถึงผลงานการเขียนหนังสือของเขาโดยเฉพาะ ก็คงต้องบอกว่าที่หนังสือของเขาได้เข้าไปอยู่ในใจของนักอ่านมากมาย และขึ้นแท่นเป็นนักเขียนในดวงใจนั่นก็อาจจะเป็นเพราะ งานเขียนของเขามีความคมคาย ชวนอ่าน ชวนคิด และมักจะมีแง่มุมที่น่าทึ่งและน่าประทับใจอยู่เสมอ
เราได้รวบรวม หนังสือ 5 เล่มของ ประภาส ชลศรานนท์ มาแนะนำให้ได้อ่านกัน ซึ่งทั้ง 5 เล่มนี้มีเรื่องราวและแง่มุมที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ความสนุกและถ้อยคำชวนอ่านจากปลายปากกาของนักเขียนมากฝีมือคนนี้
5 ผลงาน จากปลายปากกา ประภาส ชลศรานนท์
นิทานล้านบรรทัด
เล่มแรกที่แค่ได้ยินชื่อก็คงมีนักอ่านจำนวนไม่น้อยที่จะต้องร้องอ๋อ ด้วยความโด่งดังของหนังสือเล่มนี้และชื่อที่ติดหูมากๆ จึงทำให้มีคนรู้จักอยู่พอสมควร นิทานล้านบรรทัด มีทั้งหมด 3 เล่มด้วยกัน แบ่งเรื่องออกเป็นตอนสั้นๆ เป็นเรื่องสั้นที่แฝงปรัชญาชีวิตอันยิ่งใหญ่เอาไว้
เรื่องเล่าในหนังสือเล่มนี้ จะพานักอ่านไปรู้จักนามธรรมที่ลึกซึ้งในตัวของเราและคนรอบตัว ทั้งความขี้กลัว ความรัก ความอิจฉาริษยา ความเจ้าเล่ห์เพทุบาย และอีกมากมายที่เราไม่เคยได้รู้จักมันอย่างแท้จริง งานเขียนกึ่งนิทานเล่มนี้จะพาให้เราดำดิ่งลงไปถึงสัญชาตญาณดั้งเดิมของมนุษย์ ที่ชอบความเรียบง่ายและสนุกสนาน
นิทานล้านบรรทัดนั้นไม่ได้เป็นเหมือนนิทานที่เราได้อ่านตอนเด็กๆ ที่จะมาสอนให้เรารู้ว่าอะไร ไม่ได้สรุปข้อคิดที่ได้จากนิทานให้กับคนอ่าน แต่จะให้เราได้ตีความในแบบของตัวเอง แต่ละเรื่องจะแฝงแง่คิดที่เรียบง่ายแต่คมคายลึกซึ้งเอาไว้ เราอยากแนะนำให้ผู้ใหญ่ที่ยังมีหัวใจความเป็นเด็กทุกคนได้ลองหยิบนิทานเล่มนี้ขึ้นมาอ่านกันดู
ปริศนาห้าร้อย
หนังสือลำดับที่หนึ่งในหนังสือชุดคุยกับประภาส เป็นการรวบรวมบทความที่เป็นบทสนทนา เป็นเรื่องราวของการตอบข้อสงสัย ตอบปริศนาต่างๆ และบอกเล่าผ่านปลายปากกาของประภาส แต่ละเรื่องที่เราได้อ่านจากเล่มนี้เป็นปริศนาที่เป็นคำถามในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะทำให้เราต้องร้องอ๋อไปกับแต่ละเรื่องราวเมื่อได้อ่าน บทความแต่ละเรื่องนั้นสนุกสนาน กะเทาะความช่างสงสัยต่อสิ่งรอบตัว เช่น ตัวเลข ภาษา รูปทรงต่างๆ เชื้อโรค ฯลฯ โดยความช่างสงสัยของประภาสจะพาผู้อ่านผจญภัยลงไปในก้นบึ้งของความคิดและจินตนาการ
การอ่านหนังสือล่มนี้ทำให้เรารู้สึกว่านักเขียนคนนี้เป็นผู้ที่รอบรู้อย่างมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับเราได้ไปนั่งคุยอยู่เขาจริงๆ ซึ่งสไตล์การตอบคำถามของเขายังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในทุกๆ เรื่อง นั่นก็คือเขาจะไม่ตัดสิน แต่จะใช้วิธีการตอบคำถามและอธิบายต่อสิ่งต่างๆ ในรูปแบบของการยกตัวอย่าง สอดแทรกประสบการณ์และความรู้ของเขาเอาไว้ในคำตอบ ถ้าอยากรู้ว่าการตอบปริศนาของประภาสนั้นคมคายเพียงใด ลองเข้ามานั่งคุยกับเขาในเล่มนี้กันนะคะ
ศรัทธามหาสมุทร
หนังสือเล่มนี้รวบรวมบทความว่าด้วยเรื่องศาสนา ความเชื่อ ปรัชญา ผ่านมุมมองความคิดที่ได้รับการเจียระไนมาอย่างดีของผู้เขียน การนำเรื่องของศรัทธาและศาสนามาวิเคราะห์ ตีความกัน เรียกได้ว่าเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างอ่อนไหว เรื่องราวต่างๆ ภายในเล่มเป็นสิ่งที่ถ้าถูกหยิบยกมาพูดกันทั่วๆ ไป หลายครั้งก็ทำให้เกิดความขุ่นเคืองกันขึ้นมา เช่น ทำไมบางศาสนาถึงมีพระเจ้า แล้วทำไมบางศาสนาถึงไม่มี พระเจ้ามีจริงไหม พระเจ้าคืออะไร พระพุทธเจ้าทิ้งลูกทิ้งเมียไปบวช ถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัวไหม ฯลฯ แค่หัวข้อเหล่านี้ถ้านำมาพูดคุยกัน เกิดความเห็นต่าง และอธิบายให้อีกฝ่ายฟังได้ไม่ดีพอ อาจจะเกิดความไม่พอใจกันได้ง่ายๆ
ซึ่งประภาสนั้นสามารถตอบแสดงความคิดเห็นต่อแต่ละหัวข้อได้เป็นอย่างดี อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย เช่น ในคำถามที่ว่า พระพุทธเจ้าทิ้งลูกทิ้งเมียไปบวช ถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัวไหม เขาได้มีการเชื่อมโยงเปรียบเทียบกับทหารที่ทิ้งลูกเมียออกไปรบ ถึงแม้จะรู้ว่าจะต้องตายในสนามรบก็ตาม เช่นนั้นแล้วเราจะมองว่าทหารคนนั้นเห็นแก่ตัวหรือกำลังเสียสละ เขาตอบคำถามด้วยการเปิดมุมมองด้านอื่นๆ ให้กับคนอ่านได้คิดตาม
ประภาสมีวิธีตั้งคำถามและตอบคำถามในแบบที่เป็นวิทยาศาสตร์ คือมีการตั้งสมมติฐานและหาคำตอบ มีวิธีการเขียนสื่อสารที่อ่านแล้วเรารู้สึกว่าไม่ใช่การใช้อารมณ์มาพูดคุยกันหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับศาสนา แต่กลับทำให้สิ่งที่เป็นนามธรรมกลายเป็นอณูความรู้สึกที่เข้าไปอยู่ในจิตใจ ทำให้ปัญหาที่ลึกลับซับซ้อนในชีวิตคลี่คลาย กลายเป็นความสุข ความสงบ และเกิดกำลังใจในการทำความดี
ผจญภัยในความรัก
“แข็งแรงต่อความถูกต้อง อ่อนโยนต่อความสัมพันธ์”
หากผมต้องถูกมอบหมายให้เขียนคู่มือการผจญภัย ผมก็คงเขียนสั้นๆ แค่นี้
เราทุกคนล้วนมีความรักในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และทั้งๆ ที่ความรักเป็นความรู้สึกดีที่เรามีให้กับผู้อื่น แต่หลายครั้งความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักนี้ก็กลับทำให้คนเสียความรู้สึกกันมานักต่อนักแล้ว หนังสือเล่มนี้รวมบทความที่ว่าด้วยความรักในแง่มุมต่างๆ ทั้งความรักในครอบครัว เพื่อน คนรัก รักที่ผิดหวัง รักที่สมหวัง และบริบทความรักรูปแบบอื่นๆ ที่สร้างปัญหากวนใจคนทุกเพศทุกวัย เมื่อได้อ่านแล้วจะสร้างความเข้าใจเชื่อมโยงถึงความคิด ความรัก และเกิดศรัทธาในตัวเอง หรืออาจจะช่วยกระชากความคิดแย่ๆ ที่ฝังอยู่ในความเชื่อของเรามาอย่างยาวนานออกเลยก็ได้
ประภาส ไม่ได้บอกเราว่าความรักคืออะไร แต่จะทำให้เข้าใจว่าความรักนั้นไม่มีข้อจำกัด ไม่มีนิยามที่แน่นอน และไม่มีใครตระหนักรู้เลยว่าเรากำลังผจญภัยอยู่ในอะไร พาเราออกมามองปัญหาความรักของตัวเอง ในบทบาทของผู้สังเกตการณ์ ไม่ใช่คนที่กำลังผจญอยู่ในอันตรายของความรัก
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังผจญภัยอยู่ในความรัก ปัญหามากมายกวนใจไม่เคยหยุด เราขอชวนให้มาขบคิดไปกับเรื่องราวในเล่มนี้ แล้วคุณจะพบว่าการผจญภัยในความรักนั้นเป็นเรื่องปกติ ได้เรียนรู้ว่าจะมีความสุขได้อย่างไร และมองเห็นวิธีการอ่อนโยนต่อความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เรารัก
ลมพาเกสรปลิวว่อน
“คลาสสิกต้องไม่ดูถูกแจ๊ส แจ๊สต้องไม่ดูถูกร็อก ร็อกต้องไม่ดูถูกป๊อป ป๊อปก็ต้องไม่ดูถูกลูกทุ่ง และลูกทุ่งก็อย่าไปรู้สึกว่าคลาสสิกน่ะมันคนละชั้นกับเรา มันสูงกว่าเรา คนที่สนใจเรื่องสุริยจักรวาลก็อย่าไปดูแคลนคนที่สนใจเรื่องการถักโครเชต์ ทีนี้จะให้แปลกแยกกันอีกเท่าไร ผมว่าโลกก็ยังคงวิไลอยู่ไม่เสื่อมคลาย”
ความสัมพันธ์ของคนเราจะว่าง่ายก็ง่าย หรือบทจะยากก็ยากเสียเหลือเกิน ด้วยความแตกต่างของเราแต่ละคนทำให้มีความคิดที่ไม่เหมือนกัน อย่างข้อความข้างต้นที่เรายกมาจาก หนังสือลมพาเกสรปลิวว่อน ก็เป็นปัญหาพื้นฐานที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในวงสังคมที่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ด้วยรสนิยมที่แตกต่างกันอาจทำให้เราเผลอไปมองว่าสิ่งที่เราชอบนั้นดีกว่าสิ่งที่คนอื่นชอบ จนเกิดการดูแคลนกันขึ้นมาได้
ลมพาเกสรปลิวว่อน เป็นอีกหนึ่งเล่มจากหนังสือชุดคุยกับประภาส รวบรวมเอาบทความที่ว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ต่อผู้คนในที่ทำงาน ในวงสังคม วงประเทศ ที่มักจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ หนังสือเล่มนี้จะเปิดมุมมองใหม่ที่ช่วยคลี่คลายปัญหาในทุกความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้คน พาเราเข้าถึงแก่นชีวิตที่ล้ำค่า และพบว่าความสุขก็อยู่ไม่ไกล