หากกล่าวถึงยอดวรรณกรรมนิยายญี่ปุ่นของแดนอาทิตย์อุทัย ชื่อของ ดาไซ โอซามุ (Dazai Osamu) ย่อมเป็นชื่อลำดับต้นที่ทุกคนต่างคุ้นหูและนึกถึง เนื่องด้วยเป็นนักเขียนที่นำเอาเรื่องราวชีวิตมาร้อยเรียงเป็นผลงานให้เราได้สัมผัสกัน ทั้งชีวิตที่เคยสุขสบายกลับกลายเป็นถดถอยลงเรื่อยๆ จนตัดสินใจจบชีวิตตนเองแต่ก็ทำไม่สำเร็จอยู่หลาย เป็นหนึ่งในนักเขียนที่มีเรื่องราวชีวิตให้ติดตามพอๆ กับผลงานที่สร้างออกมา ทั้ง อาทิตย์สิ้นแสง และ สูญสิ้นความเป็นคน ต่างก็มีพื้นฐานมาจากเรื่องราวในชีวิตของชายคนนี้ทั้งสิ้น แม้กระทั้งมีการ์ตูนอนิเมชั่นที่ผลิตขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเขาเองเช่นกัน
ประวัติของนักเขียนผู้เดินผิดทาง ดาไซ โอซามุ
ดาไซ โอซามุ (Dazai Osamu) หรือชื่อจริง ชูจิทสึชิมะ (Shuju Tsushima) เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1909 ในเมืองคานางิ จังหวัดอะโอะโมริ ครอบครัวของเขานับว่าค่อนข้างมีฐานะ และด้วยจำนวนพี่น้องที่มีมากถึง 11 คนและพ่อเป็นนักการเมืองส่วนแม่ป่วยเรื้อรัง นั้นจึงเป็นเหตุให้ส่วนมากเขามักใช้ชีวิตและเลี้ยงดูโดยสาวใช้ภายในบ้านไม่ได้ใกล้ชิดพ่อแม่มากนัก
เมื่อโตขึ้นดาไซได้เข้าเรียนโรงเรียน มัธยมปลายอะโอะโมริ และศึกษาปริญญาตรีด้านวรรณคดีจากมหาวิทยาลัยฮิโรซากิ โดยได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของหนังสือพิมพ์ในมหาวิทยาลัยขณะนั้นด้วย ณ ที่นั้นทำให้ดาไซสามารถวาดลวดลายและแสดงความสามารถของเขาในด้านงานเขียนออกมาได้อย่างเต็มที่
ดาไซเริ่มเสียคนหลังจากการฆ่าตัวตายของ อะคุตะกะวะ ริวโนะสุเกะ นักเขียนที่เขาชื่นชม ทำให้หลังจากนั้นเขาทำตัวเหลวแหลก ติดสุรา หลงนารีและถูกให้ออกจากมหาวิทยาลัยในที่สุด ซึ่งนั้นนับเป็นอีกหนึ่งในช่วงเวลาที่แย่จนตัวเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ
ดาไซกลับเข้าเรียนอีกครั้งในสาขาวรรณกรรมฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยโตเกียว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงทำให้ครอบครัวเลือกที่จะตัดขาดกับเขา หลังจากนั้นดาไซก็มีความสัมพันธ์กับหญิงสาวมากมายทั้งยังเคยตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมกับหญิงสาวบางคนแต่ไม่สำเร็จและมีเพียงเขาที่รอดชีวิตกลับมา
สุดท้ายดาไซได้แต่งงานกับอิชิฮาระ มิจิโกะพร้อมกำเนิดทายาทในเวลาต่อมา หลังจากนั้นดาไซก็ได้ปล่อยผลงาน อาทิตย์สิ้นแสง ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ดาไซในวัยสามสิบกว่าปีนั้นเรียกได้ว่าผ่านเรื่องราวที่ทำร้ายจิตใจมามากมายและป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง และยังมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวไปทั่ว
สุดท้ายดาไซได้เขียนหนังสือ สูญสิ้นความเป็นคน ที่เปรียบดังชีวประวัติของเขาขึ้นมา โดยนำตัวเองเป็นตัวละครหลักภายในเรื่อง ถ่ายทอดทุกสิ่งอย่างที่เขาประสบพบเจอมาตลอดชีวิตไว้เป็นนิยายเรื่องนี้ ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตัดสินใจจบชีวิตตนเองไปพร้อมๆ กับยามาซากิโทมิเอะ
ดาไซนับได้ว่าเป็นนักเขียนที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากคนหนึ่งในวงการหนังสือของญี่ปุ่น ผลงานของดาไซเป็นหนึ่งในหนังสือที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันด้วยเนื้อหาของสูญสิ้นความเป็นคนที่กล่าวให้เห็นถึงบุคคลคนหนึ่งที่ได้สูญเสียตัวเองไปกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เขาต้องพบเจอเรียกได้ว่าเป็นการนำบทเรียนชีวิตอันมีค่าของคนๆหนึ่งมาบอกล่าแก่ทุกคน
นิยายญี่ปุ่น อาทิตย์สิ้นแสง และ สูญสิ้นความเป็นคน สองผลงานของ ดาไซ โอซามุ (Dazai Osamu)
อาทิตย์สิ้นแสง
หนังสือเรื่องนี้ดาไซได้ว่างช่วงเวลาไว้หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยามที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ ประเทศอยู่ในช่วงพังทลาย โดยเนื้อหาได้รับแรงบันดาลใจจากบันทึกของหญิงสาวนาม โอตะชิซึโกะโดยมีตัวละครเอกชื่อคาสุโกะที่เป็นลูกสาวชนชั้นสูงที่เธอและแม่ต้องขายทรัพสินทั้งหมดเพื่อหนีไปอยู่ยังที่ห่างไกลณที่แห่งนั้นที่ผู้ดีเก่าอย่างเธอต้องปรับตัวและใช้ชีวิตเปรียบดั่งพระอาทิตย์ที่เคยโดดเด่นบนท้องฟ้าแต่กลับสิ้นแสงลงในปัจจุบัน
สูญสิ้นความเป็นคน
นวนิยายที่เปรียบได้กับชีวประวัติของดาไซเองที่ตัวเขานำมาเป็นแรงบันดาลใจในนิยายเรื่องดังกล่าวเรื่องราวของโอบะ โยโซ เด็กหนุ่มที่มีฐานะทางบ้านมั่นคงและเติบโตมาในสังคมชั้นสูงโดยมีพ่อเป็นนักการเมือง ตัว โอบะ โยโซ นั้นเปป็นเด็กขี้โรคและต้องเติบโตมาในกรอบที่ครอบครัวกำหนดไว้ซึ่งไม่ได้เป็นความต้องการที่แท้จริงของเขา ชั่วชีวิตเขาทำได้แค่ปั้นหน้ายิ้มและไม่เคยได้เอ๋ยความจริงหรือความรู้สึกข้างในออกมาเลยสักครั้ง ก่อนที่สุดท้ายโยโซจะตัดสินใจจบชีวิตพร้อมกับคนรักเพื่อจากโลกที่ไม่เคยมีพื้นที่สำหรับเขาอยู่เลย
เรื่องราวของดาไซและผลงานของเขานั้นได้ถูกนำมาศึกษาต่อในยุคปัจจุบัน โดยเพราะในเรื่องของจิตวิทยาที่มีการศึกษาถึงอาการป่วยของดาไซกันว่าอาจจะมีภาวะจิตใจที่บอบช้ำเป็นอย่างมาก เพราะการตัดสินใจจบชีวิตของตนเองแต่ไม่สำเร็จอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เขาไม่สามารถกลับมาเดินตามเส้นทางที่ถูกต้องได้ เพราะฉะนั้นผลงานของเขาเป็นหนึ่งในงานเขียนสะท้อนชีวิตที่ล้ำค่าเป็นอย่างมากค่ะ สุดท้ายนี้หากนักอ่านอยากรู้จักนักเขียนท่านไหนเพิ่มสามารถกดเข้าไปดูได้ที่นักเขียนและอย่าลืมติดตามบทความดีๆ ได้ใหม่นะคะ เลือกจะ Read เลือก Reeeed ค่ะ
อ้างอิง