ไมเคิล เอ็นเด้ (Michael Andreas) หนึ่งในนักประพันธ์วรรณกรรมเด็กที่มีผู้คนชื่นชมอย่างกว้างขวางคนหนึ่ง ผลงานของไมเคิลมักเต็มไปด้วยเรื่องราวแฟนตาซีที่เข้าใจง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยแง่คิดที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อ่านได้เช่นกัน ในวันนี้เราจะพานักอ่านทุกท่านไปรู้จักกับนักเขียนท่านนี้และผมงานสร้างชื่ออย่าง The Neverending Story และ Momo and Jim Button
ประวัติ ไมเคิล เอ็นเด้ (Michael Andreas)
ไมเคิล เอ็นเด้ Michael Andreas Helmuth Ende เป็นนักเขียนชาวเยอรมันแนวแฟนตาซีและ นิยายสำหรับเด็ก เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 1929 ในเมือง การ์มิช พ่อเป็นจิตรกรแนวเซอร์เรียลิสต์ และ แม่เป็นนักกายภาพบำบัด เมื่อไมเคิลอายุได้ 6 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่ ย่านศิลปินในมิวนิก การเติบโตในสภาพแวดล้อมทางศิลปะและวรรณกรรมที่เข้มข้นนี้มีอิทธิพลต่องานเขียนในภายหลังของเขา
เขาเป็นที่รู้จักจากผลงานแฟนตาซีระดับมหากาพย์เรื่องThe Neverending Story (โดยดัดแปลงจากภาพยนตร์ในช่วงปี 1980 และดัดแปลงเป็นแอนิเมชั่นทางโทรทัศน์ในปี 1995); ผลงานที่เป็นที่รู้จักอื่นๆ ได้แก่ Momo and Jim Button และ Luke the Engine Driver ผลงานของเขาได้รับการแปลมากกว่า 40 ภาษา ขายได้มากกว่า 35 ล้านเล่ม
ผลงานดังของ ไมเคิล เอ็นเด้ (Michael Andreas)
The Neverending Story
เรื่องราวของ บาสเตียน เด็กชายที่มีน้ำหนักเกินอย่างแปลกประหลาด บาสเตียนถูกพ่อทอดทิ้งหลังจากแม่เสียชีวิต โดยวันหนึ่งเขาถูกรังแกและได้หลบหลีเข้าไปในร้านหนังสือและวัตถุโบราณของ คาร์ล คอนราด คอแรนเดอร์ ภายในร้านเข้าได้พบกับหนังสือ The Neverending Story และรู้สึกถูกดึงดูดอย่างประหลาดจนตัดสินใจขโมยหนังสือเล่มดังกล่าว
หลังบาสเตียนได้อ่านหนังสือเล่มนั้นเขาค้นพบเรื่องราวของ Fantastica สถานที่ลึกลับที่ถูกปกครองโดยราชินีผู้น่าหลงไหล ในวันหนึ่งมีคณะผู้แทนมาหาราชินีเพื่อขอร้องให้เธอช่วยต่อต้านสิ่งที่เรียกว่า “The Nothing” แต่แพทย์ประจำจักรวรรดิได้แจ้งเหล่าผู้แทนถึงอาการป่วยของราชินีและได้ให้ อาเทร เดินทางพร้อมเหรียญที่ปกป้องเขาจากอันตรายเพื่อค้นหาผู้ทำนายซึ่งมองไม่เห็นนาม อูลลาล่า ที่อาจจะรู้วิธีรักษาราชินี และเมื่อพบอูลลาล่าเขาบอกว่าหนทางเดียวที่จะรักษาราชินีได้คือการได้รับชื่อใหม่จากมนุษย์ที่อยู่นอก Fantastica
Momo
ในซากปรักหักพังนอกเมืองที่ไม่มีชื่อ Momo สาวน้อยที่มีต้นกำเนิดลึกลับอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนั้น เธอตัวคนเดียวไม่มีใครดูแลและสวมเสื้อโค้ทตัวยาวที่ใช้แล้ว เธอไม่รู้หนังสือ ไม่สามารถนับเลขได้และเธอไม่รู้ว่าเธออายุเท่าไหร่ เมื่อถูกถามเธอมักตอบว่า “เท่าที่ฉันจำได้ ฉันไปไหนมาไหนด้วยตัวเองตลอด” เธอโดดเด่นในละแวกบ้านเพราะเธอมีความสามารถพิเศษในการฟัง
เธอสามารถรับฟัผู้คนรอบตัวและช่วยพวกเขาหาคำตอบสำหรับปัญหาที่เผชิญอยู่ ไม่ว่าจะคิดเกมสนุกๆ ยามที่เบื่อ วิธีแต่งหน้าให้สวยงาม ในเมืองแห่งนี้จึงมีวลีที่ผู้คนมักพูดว่า “ไปดู Momo!” เป็นคำติดปากประจำเมือง และ momo เองก็มีเพื่อนมากมาย โดยเฉพาะเบปโป คนทำความสะอาดถนนผู้ซื่อสัตย์และเงียบขรึม
สุดท้ายนี้หากนักอ่านท่านไหนที่สนใจอยากรู้จักนักเขียนท่านอื่นๆ และบทความเกี่ยวกับหนังสือที่ดีๆ อย่าแวะเข้ามาใหม่ได้ที่ aricle.eeeed นะคะ เรามีบทความดีๆ มาอัพเดทอยู่เสมอให้นักอ่านทุกท่านเข้าใจโลกของหนังสือให้มากขึ้น เลือกจะ Read เลือก Reeeed ค่ะ