ตำนาน เพอร์ซีอุส(Perseus) วีรบุรุษแห่งกรีซผู้พิชิตกอร์กอน

ใครที่ชื่นชอบในเรื่องราวของวีรบุรุษหรือตำนานเทพนิยายกรีก ชื่อของ เพอร์ซีอุส(Perseus) จะเป็นหนึ่งในชื่อที่คุ้นเคยกันอย่างแน่นอน เพราะนี่คือวีรบุรุษแห่งกรีกคนหนึ่งที่มีเรื่องราวน่าติดตาม ตั้งแต่การเกิดมาอย่างเป็นปริศนาจนใครๆ ต่างก็กล่าว่าเขาคือบุตรแห่งซูสราชาแห่งโอลิมปัส พร้อมทั้งภารกิจที่ได้รับในการสังหารมารดาแห่งปีศาจอย่างกอร์กอนเมดูซ่า ความเฉลี่ยวฉลาดในดารเผชิญหน้ากับอสูรทะเลอัน่าหวาดหวั่น ทั้งหมดนี้ต่างเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สนุกสนานและชวนติดตาม และในวันนี้ Reeeed จะพาคุณไปรู้จักกับเรื่องราวของเพอร์ซีอุสผ่านสายตาของ ชาร์ลส์ คิงส์ลีย์(Charles Kingsley) ที่ได้ศึกษาและเรียบเรียงเรื่องราวเพอร์ซีอุสในแบบของเขาให้เราได้รู้จักกันค่ะ

เรื่องราวของ เพอร์ซีอุส(Perseus) โดย ชาร์ลส์ คิงส์ลีย์(Charles Kingsley)

เพอร์ซีอุสเป็นบุตรชายของดานาอีซึ่งเป็นธิดาของอะคริซิอุส โดยอะคริซิอุสมีน้องชายฝาแฝดนามโปรเอตุสทั้งสองเป็นเจ้าชายแห่งดินแดนเฮลลาสอันอุดมสมบูรณ์ แต่ทั้งคู่กลับแก่งแย่งชิงดีและริษยากันอยู่เสมอไม่ได้เป็นพี่น้องที่รักกันแต่ประการใด เมื่อทั้งสองเติบโตขึ้นต่างก็แย่งชิงดินแดนจนถึงขั้นนำพาชาวต่างถิ่นมาช่วยรบ ผลท้ายที่สุดทั้งสองได้ครอบครองดินแดนคนละครึ่งแต่ก็ยังมีความขัดแย้งกันอยู่เรื่อยมา

วันหนึ่งอะคริซิอุสได้รับคำพยากรณ์ที่ทำให้ตัวเขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ด้วยการที่เขาปฏิเสธผู้มีสายเลือดเดียวกัน อิจฉาริษยาและจ้องเข่นฆ่ากัน ทำให้เทพเจ้าได้ลงโทษเขา โดยเขาจะต้องถูกสายเลือดเดียวกันสังหาร เขาทำบาปกับญาติพี่น้องเขาของตนเองและจะถูกลงโทษจากเหล่าญาติพี่น้อง ดานาอีธิดาของเขาจะให้กำเนิดบุตรและบุตรนั้นจะสังหารเขาเสีย ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนนั้นเพราะเป็นสิ่งที่เหล่าทวยเทพได้กำหนดชะตากรรมของเขาเอาไว้แล้ว คำพยากรณ์ดังกล่าวทำให้อะคริซิอุสไม่สามารถใช้ชีวิตที่เป็นสุขได้อีกต่อไป เขากักขังธิดาของตนเองไม่ให้พบผู้ใดเพียงเพื่อไม่ให้นางมีบุตรและคิดเสมอว่าตนเองนั้นฉลาดกว่าเหล่าทวยเทพ

แต่ถึงท้ายที่สุดดานาอีก็ให้กำเนิดบุตรชายออกมา ทำให้อะคริซิอุสจับธิดาและหลานของตนเองใส่โลงศพและปล่อยลอยน้ำไปในทะเลและไม่สนใจใจดีชะตากรรมสายเลือดตนเอง ดานาอีและเด็กน้อยล่องลอยจนมาพบกับเกาะเซริโฟส ได้พบกับดิคเทสน้องชายของราชาโพลีเดคทีสผู้ปกครองเกาะ ดิคเทสได้รับดานาอีเป็นบุตรและเด็กน้อยได้รับการตั้งชื่อว่า เพอร์ซีอุส ก็ได้รับเป็นหลานของเขาเช่น โดยสองแม่ลูกถูกเลี้ยงดูอย่างดีในบ้านของดิคเทส จนกระทั่งราชาโพลีเดคทีสนั้นต้องการแม่ของเพอร์ซ๊อุสไปเป็นภรรยาแต่ดานาอีไม่ยอม ทำให้นางต้องถูกจับไปเป็นทาสรับใช้และเวลานั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่เพอร์ซ๊อุสต้องออกเรือหาปลายังที่แสนห่างไกลทำให้เขาไม่รู้เรื่องนี้

ในเกาะที่ห่างไกลเพอร์ซีอุสได้มองเห็นนิมิตในความฝันว่าเทพีอาเธน่ามาพบตนเอง พร้อมถามว่าเขาเป็นคนเช่นไร เพอร์ซีอุสได้ตอบคำถามที่ทำให้อาเธน่าพึ่งพอใจนางจึงได้ให้เพอร์ซีอุสเห็นเงาของกอร์กอนบนโล่ของนางและกล่าวว่าวันหนึ่งที่เพอร์ซีอุสแข็งแกร่งกว่านี้ กอร์กอนจะเป็นบทพิสูจน์ความกล้าหาญของเขา แต่ตอนนี้เขาต้องตื่นจากฝันและกลับไปทำเรื่องที่สำคัญก่อน เพอร์ซีอุสเมื่อตืนจากฝันก็มุ่งหน้ากลับบ้านและพบว่าแม่ตนเองกลายเป็นทาสของราชาราชาโพลีเดคทีสทำให้เพอร์ซ๊อุสโกรธมากและเกือบผลั้งมือสังหารราชา ดานาอีและดิคเทสได้ขอร้องให้เพอร์ซีอุสปล่อยเขาไปและราชาโพลีเดคทีสเองก็จำใจให้อภัยกับความผิด แต่ตัวเขาก็กำลังวางแผนเพื่อขับไล่เพอร์ซีอุสให้พ้นทางเพื่อจะนำตัวดานาอีมาไว้ข้างกาย

ราชาโพลีเดคทีสวางอุบายจนเพอร์ซ๊อุสได้หลงกลและเผลอสัญญาว่าจะนำหัวกอร์กอนให้ราชาให้จงได้ เพอร์ซีอุสในยามนี้กลายเป็นตัวตลกของทุกคนในเมือง เขาเสีนศักศรีดิ์และตัดสินใจที่จะปราบกอร์กอนจริงๆ นั้นจึงทำให้อาเธน่าและเฮอร์มีสมุ่งหน้ามาพบเขา อาเธน่าได้ถามถึงความแน่ใจในการเดินทางครั้งนี้เพราะใช้เวลายาวนานกว่า 7 ปีและเมื่อมั่นใจในความตั่งใจของเพอร์ซ๊อุสนางจึงได้มอบโล่พร้อมบอกวิธีจัดการกับกอร์กอนให้เพอร์ซีอุสทราบและให้เพอร์ซีอุสตามหา 3 พี่น้องเกรย์ผู้ใช้ดวงตาร่วมกัน พวกนางจะเป็นผู้บอกทางให้ไปพบนิมฟ์ธิดาของดาวประจำเมืองและเหล่านิมฟ์จะเป็นผู้พาเพอร์ซีอุสไปพบกับกอร์กอนเมดูซ่าอีกที ด้านฌฮอร์มีสได้มอบรองเท้าติดปีกของเขาเพื่อให้เพอร์ซีอุสใช้เดินทางข้ามน้ำทะเลและผู้เขาไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้เช่นกัน

เพอร์ซ๊อุสเริ่มออกเดินทางด้วยรองเท้าที่ได้รับและในที่สุดเขาก็พบสามพี่น้องเกรย์ท่ีริมฝั่งทะเลอันหนาวเย็น ทั้งสามนั้นเย่อหยิ่งและดูถูกมนุษย์ทำให้เพอรืซ๊อุสขโมยดวงตาของพวกนางและบังคับให้พวกนางบอกทางเพื่อไปพบกอร์กอน ทั้งสามได้บอกเพอร์ซ๊อุสให้มุ่งลงใต้เพื่อพบ เฮสเปอร์ไรด์ธิดาของยักษ์แอตลาสผู้แบกสวรรคเอาไว้นางจะรู้ถึงสถานที่ต่อไปที่เพอร์ซี่ต้องเดินทาง เพอร์ซ๊อุสคืนดวงตาให้พวกนางและมุ่งหน้าลงใต้ต่อไป เขาได้เข้าสู่ดินแดนเสียงร้องอันไพเราะจึงทำให้คาดเดาได้ว่านี่เป็นที่อยู่อาศัยของนิมฟ์ธิดาของดาวประจำเมือง ในตอนแรกพวกเธอเขาใจผิดว่าเพอร์ซีอุสคือเฮราคลีสที่ต้องการมาปล้นสวน เมื่อเพอร์ซีอุสอธิบายว่าเขาไม่ใช้เฮราคลีสเพียงแวะมาเพื่อตามหากอร์กอนเท่าให้เหล่านิมฟ์สบายใจพร้อมเตือนเขาด้วยความหวังดีว่าไม่ควรนำชีวิตไปทิ้งและมาเต้นรำกับพวกเธอ เพอร์ซ๊อุสที่ออกปากปฏิเสธแม้เหล่านิมฟ์จะไม่พอใจแต่ก็ยอมมุ่งหน้าไปหาแอตลาสเพื่อถามถึงที่อยู่กอร์กอนให้

แอตลาตแบกสวรรค์เอาไว้เพื่อแยกจากโลกทำให้ตัวเขานั้นมองเห็นทุกสิ่งอย่างสุดลูกหูลูกตา เขาได้บอกถึงสถานที่อยู่ของกอร์กอนแก่เพอร์ซีอุสว่ามองเห็นนางนอนอยู่บนเกาะห่างไกล แอตลาสกล่าวว่าการจะเข้าใกล้กอร์กอนได้ต้องใช้หมวกแห่งความมืดที่อยู่ในนรกของเฮดีสมนุษย์ไม่อาจไปเอาได้ แต่หากเพอร์ซีอุสสัญญาว่าจะให้เขาได้มองดวงตากอร์กอนหลังจากปลิดชีพนางได้เขาจะให้เหล่านิมฟ์ช่วยเหลือไปนำหมวกมาให้ เพราะเมื่อเขามองดวงตาของการ์กอนจะทำให้เขากลายเป็นหินที่แบกสวรรค์เอาไว้ซึ่งถือว่าเป็นการปลดปล่อยเขาจากพันธนาการดั่งกล่าว ซ฿่งแน่นอนเพอร์ซ๊สัญญาเขารอ 7 วันและนิมฟ์ตนหนึ่งก็ได้นำหมวกแห่งความมืดมามอบให้แก่เขา

เพอร์ซีอุสสวมรองเท้าและหมวกแห่งความมืดลอยเขาหากอร์กอน หมวดแห่งความมืดทำให้เขาหายตัวได้ เมื่อเขาใกล้กอร์กอนทั้งสามเขาก็เล็งไปที่เมดูซ่าผู้เป็นศัตรูของเอเธน่าเท่านั้น ไม่ได้สนใจกอร์กอนพี่สาวอีกสองตัว เพอร์ซ๊อุสมีความชั่งใจเล็กน้อยก่อนลงมือเพราะเขามองเห็นแต่ความเศร้าสร้อยของเมดูซ่า แต่เมื่อเมดูซ่ารู้สึกตัวว่ากำลังถูกใครบางคนหมายปองทำร้ายก็ตื่นขึ้น แต่เพอร์ซีอุสก็ใช้โอกาสเพียงจังหวะเดียวสะบั้นขอนางและนำขนแกะมาห่อเอาไว้ พี่สาวกอร์กอนอีกสองตัวเห็นดังนั้นจึงไล่ตามเพอร์ซีอุสไปหวังจะสังหารเขาให้ตายแต่เพอร์ซ๊อุสก็หนีไปได้ในที่สุด เพอร์ซ๊อุสไปพบแอตลาสและเปิดดวงตากอร์กอนให้เขาดูตามสัญญาและมุ่งหน้าสู้ตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อกลับบ้าน

เมื่อถึงเมืองของชาวเอธิออปส์ เพอร์ซีอุสได้พบกับเจ้าหญิงแอนโดรมีดาที่กำลังจะถูกสังเวยให้อสูรทะเล เขาต้องการช่วยเธอแต่แอนโดรมีดากล่าวถึงชะตากรรมที่เธอต้องเจอและอสูรตนนั้นน่ากลัวเกินไป เพอร์ซ๊อุสจึงอาสาจัดการอสูรนั้นแลกกับคำสัญญาว่าเธอจะกลับอากอสกับเขาและแต่งงานเป็นภรรยาของเขา แอนโดรมีดาแม้ไม่เชื่อว่าเพอร์ซ๊อุสทำได้แต่ก็ยอมสัญญา เพร์ซ๊อุสใช้หัวกอร์กอนในการจัดการกับอสูรตนนั้น ทำให้แอนโดรมีดาทำตามเงื่อนไขนั้นคือแต่งงานกับเขา พ่อของแอนโดรมีดาราชาแห่งไอโอปาขอร้องให้เพอร์ซ๊อุสอาศัยอยู่ที่นี่เขาจะยกดินแดนให้ครึ่งหนึ่ง แต่เพอร์ซีอุสปฏิเสธเพราะเขาต้องการกลับบ้านแต่ก็อาศัยอยู่ที่ไอโอปาเป็นเวลาหนึ่งปีก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านของตน

เพอร์ซีอุสและแอนโดรมีดาเดินทางถึงเกาะเซริโฟสในที่สุด เขากอดมารดาและดิคเทสพ่อ ทุกคนพากันร้องไห้อยู่พักใหญ่เพราะเป็นเวลากว่าเจ็ดปีแล้วนับตั้งแต่ท่ีพบกันคร้ังสุดท้าย เพอร์ซ๊อุสนำหัวของกอร์กอนให้พลีเดคทีสในท้องพระโรงโดยชูขึ้นทำให้ทุกคนที่นั้นกลายเป็นหินในทันที เพอรืซ๊อุสจัดแจงมอบอารษจักรให้ดิคเทสดูแลต่อ พร้อมพาแม่และภรรยาล่องเรือไปทางตะวันตกจนถึงอาร์กอส เขาได้ยึดเมืองอาร์กอสและฆ่าโปรเอตุสผู้เป็นน้องชายของตาที่โหดร้ายไม่ต่างกัน ก่อนจะพบว่าตาของเขาอะคริซิอุสหนีไปแล้ว เพอร์ซ๊อุสออกตามหาอะคริซิอุสที่ได้ไปอาศัยอยู่กับราชาทัวทาเมเนส เมื่อเพอร์ซ๊อุสไปถึงที่นั้นเขาได้แอบลงแข่งขันขว้างห่วงซึ่งเพอร์ซีอุสดันพลั้งมือทำให้ห่วงไปโดนตาของเขาจนเสียชีวิต สิ่งนี้ทำให้เพอรืซ๊อุสตระหนักว่าคำทำนายของเหล่าเทพนั้นเป็นความจริงในที่สุด เขากกลับอากอสและปกครองที่นั้นอย่างมีความสุขกับแอนโดรมีดา มีลูกชาย 4 คนลูกสาว 3 คนและเสียชีวิตในวัยชรา

สำหรับใครที่ชื่นชอบตำนานเทพนิยายกรีกและวีรบุรุษต่างๆ แล้วละก็ Reeeed มีหนังสือน่าสนใจอย่าง ตำนานวีรบุรุษในเทพนิยายกรีก มาแนะนำนักอ่านกันค่ะ หนังสือเล่มนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวของ 3 วีรบุรุษอย่าง เพอร์ซีอุส คณะอาร์โกนอตส์ และ ธีซีอุส รวบรวมเนื้อหาไว้โดยชาร์ลส์ คิงส์ลีย์(Charles Kingsley)ที่หลงไหลในเรื่องราวเทพนิยายพื้นบ้านต่างๆ และเล่าออกมาในรูปแบบที่น่าสนใจในแบบฉบับของผู้เขียนเอง

หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้รวบรวมตำนานกรีกสามเรื่องคือ เพอร์ซีอุส, คณะอาร์โกนอตส์ และ ธีซีอุส เข้าด้วยกัน โดย ชาร์ลส์ คิงสลีย์ นั้นมีความรักในเทพนิยายกรีกอย่างยิ่ง และเชื่อว่าการผจญภัยของตัวละคร จะกระตุ้นให้เด็กๆ มีความกล้าหาญ เสียสละ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่สูงขึ้นได้ ด้วยคุณธรรมความดี

ซื้อหนังสือ ตำนานวีรบุรุษในเทพนิยายกรีก