ในวันนี้เราขอเอาใจคอ นิยายจีนโบราณ ที่ชอบพล็อตย้อนเวลาแก้ไขอดีตกันค่ะ โดยวันนี้เราขอนำเสนอเรื่อง “แม่ทัพในกำมือ” หนึ่งใน นิยายจีนโบราณ เรื่องเยี่ยมที่จะพานักอ่านไปพบกับเรื่องราวชีวิตสุดแสนอาภัพของนางเอก จากหญิงงามชั้นสูงสู่หญิงสาวต่ำศักดิ์ที่มีแต่คนดูถูกแม้ตายก็ไม่มีใครเหลียวแล จนกระทั้งได้เกิดใหม่ย้อนกลับไปในวัย 15 ทีนี้ละภารกิจเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของนางจึงได้เริ่มขึ้น แค่อ่านผ่านๆ เท่านี้ก็น่าสนุกแล้วใช่มั๊ยคะ แต่เรามีรีวิวเต็มๆ จากเพจ คุณชายรีวิวหนังสือ ที่จะมาแชร์ความรู้สึกหลังอ่านเรื่อง “แม่ทัพในกำมือ” กันค่ะ
เรื่องนี้กล่าวถึงตัวละครนางเอกนามว่า ‘กู้เยียน’ บุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดีฝ่ายซ้าย นางกำพร้ามารดาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และด้วยความที่บิดารักนางกว่าใครอื่น ท่านเสนา ฯ จึงแต่งงานใหม่กับหญิงชาวบ้านธรรมดาเพื่อเลี่ยงปัญหาภรรยาใหม่กับลูกเลี้ยง อาศัยให้อีกฝ่ายช่วยดูเรื่องในเรือนช่วยบุตรสาว
และกู้เยียนก็ไม่เคยทำให้บิดาผิดหวัง นางสอบเข้าสถานศึกษาหลวงได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เดิมทีถูกจัดให้เป็นสถานที่เฉพาะบุตรหลานขุนนางใหญ่และเชื้อพระวงศ์ ถ้าต่ำกว่าขั้น 5 ไม่มีสิทธิ์เข้าสังคมชั้นสูงนี้ได้ แต่ในเมื่อกู้เยียนมาอยู่ตรงนี้ ด้วยรูปลักษณ์กอปรกับความสามารถของนาง ต่างเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกฝ่าย ทั้งยังถูกยกย่องให้เป็นสาวงามเมืองเยี่ยนจิง ฝ่ายเยี่ยนอ๋องและองค์รัชทายาท หมายตานางไว้เป็นคู่ครองในภายภาคหน้า
แต่พอถึงวัยออกเรือน ทุกอย่างพลิกผันให้นางได้ครองคู่กับ ‘เฉินฉงฮุย’ แห่งจวนจิ้นเจียงโหว ทว่าเขามีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็ตายจากไป นับแต่นั้นมาบนหน้าผากของกู้เยียนประทับคำว่า ‘หญิงหม้าย’ ตั้งแต่อายุ 16 ปี แบกรับภาระอันใหญ่หลวง ที่สามีทิ้งไว้ให้นางเลี้ยงดูหลานชายนามว่า ‘เฉินเยว่ 10 ปีที่นางสอนสั่งอบรมจนเขาเขาเติบใหญ่อย่างกล้าแกร่ง 10 ปีต่อจากนั้น เขาขึ้นสู่ตำแหน่งสูง ขณะที่นางถูกถีบลงต่ำ สวมเสื้อปะชุน กรีดหน้าทำลายรูปโฉมกันคนข่มเหง บิดาตาย ตระกูลเดิมสิ้นสูญ เร่ร่อนไร้บ้านให้พักพิง เคยบากหน้าไปเคาะประตูจวนเพื่อถามหาเฉินเยว่ กลับได้รับถุงผ้าเก่าขาดที่นางเคยใช้ใส่เงินส่งเสียอีกฝ่ายเรียนไว้เป็นคำตอบ
ในช่วงเวลาอันแสนยากลำบากที่สุดในชีวิต กลับได้รับน้ำใจจากผู้แซ่เซียว ‘เซียวเจิ้งเฟิง'(พระเอก)เข้าช่วยเหลือ แต่นางขอเลือกเดินออกไปตามเส้นทางของตัวเอง ก่อนจะถูกฆ่าตายเป็นศพไร้ญาติที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวง ไม่รู้ตัวตนของผู้ลงมือ เห็นเพียงเงารองเท้าคู่หนึ่ง
และ…นางก็ได้รับโอกาสย้อนเวลากลับมาในช่วงวัย 15 ปี บิดายังอยู่ นางยังไม่ได้ออกเรือนถือครองคำว่าหญิงหม้ายเช่นในชีวิตแรก ไม่ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานชั่วของสามีผู้นั้น!!
คุณชายวิเคราะห์ความน่าสนใจ
นักเขียนท่านนี้ มีผลงานแปลออกมาแล้วสามเรื่อง ฮูหยินบุก ดรุณีสุดที่รัก ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง พอมาถึงเรื่องนี้ แนวการเล่าเรื่องไม่เหมือนสามเรื่องแรก เด่นในแง่การวาง Mind Map ซึ่งข้อดีของการวาง Mind Map จะทำให้สัดส่วนเนื้อหาสวยวางปมไว้ 10 ตอบ 10 ไม่ขาดไม่หาย ถ้าใครไม่มีหนังสือในมือ มองไม่ออกว่าแนวเรื่องเป็นแบบไหน ชายยกตัวอย่างนิยาย 2 เรื่องมาเป็นตัวเปรียบเทียบ
ผลาญ : คล้ายกันตรงที่นางเอกเดินเรื่องในชีวิตใหม่ เริ่มจากจัดระเบียบคนในตระกูล ผิดกันแค่นางไม่ได้ย้อนมาแก้แค้น แต่ย้อนมาเพื่อแก้ไขโชคชะตาเก่า ป้องกันเหตุการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้น อาทิ ตระกูลกู้ต้องไม่ล่มสลาย พ่อต้องมีชีวิตอยู่ ช่วยพี่สาวสอนน้องชายต่างมารดาให้รู้จักเรียนหนังสือ เคลียร์ปัญหากับแม่เลี้ยง จัดการบ่าวชั่วหรือปลวกตัวน้อยที่คอยกัดกินบ้านจนทำให้ตระกูลกู้หมดสิ้นทุกอย่าง เปลี่ยนการแต่งงานของตัวเอง ฯลฯ
หมิงหลัน : คล้ายกันในแง่ พอนางเอกออกเรือน ตัวละครฝั่งบ้านพระเอกมีท่านย่าเป็นตัวยืนค้ำตระกูล ลูกหลานเยอะ กู้เยียนเป็นสะใภ้ลำดับที่ 9 แม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะเอ็นดูนาง พี่น้องสามีไม่มีปัญหากับนาง แต่…ระหว่างลูกสะใภ้ด้วยกันมันยากจะเลี่ยงสนามรบแห่งความริษยา ตัวละครเยอะมาก 9 บ้าน 10 บ้าน ไม่นับรวมตัวประกอบรายบทอีกเพียบ
สำหรับชาย นิยายเรื่องนี้มันจึงมีทั้งข้อดีข้อเสียปนกัน ข้อดี สนุกกับการเดาทางนักเขียน อย่างโจทย์หลักของนางเอก ต้องเจอตัวละครย้อนเวลาเหมือนกับนางถึง 2 คน ต่างฝ่ายต่างรู้เหตุการณ์ล่วง หน้าทุกอย่างในชาติก่อนสนุกสิทีนี้ คนแรกเคยทำให้นางเจ็บปวดมากที่สุด คนต่อมาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันในชาติแรก แต่นางคือ ‘หลี่หมิงเยว่’ เมียเก่าของพระเอกและที่น่าสนใจ ทุกตัวละครในชาติแรก มีโจทย์ชีวิตต่างกันและตายไม่ดีสักคน ดังนั้นแล้วคนที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า 3 คนตรงนี้ เมื่อได้รับโอกาสมาเกิดใหม่ เธอและเขาจะเปลี่ยนแปลงเส้นชะตาเดิมหรือจะมาเพื่อตีกันเอง ประเด็นนี้น่าสนใจ
อย่างการรู้ว่าในท้ายที่สุดใครจะได้เป็นฮ่องเต้? หลี่หมิงเยว่ในฐานะเมียเก่าท่านแม่ทัพเซียว ยังจะเลือกพระเอกแบบเดิม หรือนางจะเลือกใหม่ แล้วนางเอกจะครองคู่กับพระเอกได้ยังไง? มันจะมีคนเดินผิดทาง กับคนที่เดินถูกทางและคนที่เลือกเส้นทางใหม่ จับตา 3 คนนี้ดี ๆ ทำให้คนอ่านอย่างเราสนุกไปกับการเดา สนุกกับการเลือกของพวกเขา ช่วยใคร ทิ้งใคร เดินทางไหน และอยู่ฝั่งใคร
ส่วนข้อเสีย พอเขาวางโครงเรื่องแบบ Mind Map เนื้อหาจึงออกมาละเอียดยิบ คล้ายกำลังอ่านตารางชีวิตตัวละคร เช้า กลางวัน เย็น ค่ำ ซึ่งมันก็ไม่ได้สนุกซะทุกเหตุการณ์ที่เขาใส่มา คนชอบคือชอบ คนหลับคือหลับลึก และเขาได้สะท้อนถึงยุคสมัยหนึ่ง มีกลิ่นอายของความเป็นนิยายโบราณ ทำไมลูกอนุถึงแต่งเป็นภรรยาเอกไม่ได้ ทำไมลูกภรรยาเอกต่อให้เป็นหญิง ยังไงก็มีเสียงหนักกว่าลูกอนุ สมัยนั้นไม่มีโนเกียกดโทรหากัน ไม่มีสื่อบันเทิง แต่ละวันจึงเต็มไปด้วยเรื่องราวการกินการอยู่ การเจอะเจอผู้คน จันทร์ไปงานเลี้ยง อังคารเตรียมตัดชุด พุธมีนัดเข้าวัง พฤหัสกลับเข้าไปยังสถานศึกษา ศุกร์แต่งกลอนจีบผู้ชาย เดือนหน้ามีเทศกาลอวดความสวยทิ้งผ้าเช็ดหน้าให้ผู้ชายเก็บ แล้วยังจะมีการแบ่งชนชั้นใครใหญ่ใครเล็ก ทำอะไรก็ต้องมองสีหน้า รายละเอียดแฝงอรรถรสมันมี แต่…. ขึ้นอยู่กับเราจะซื้อสิ่งที่เขาเอามาขายให้กับเราไหม
สิ่งที่พอช่วยได้คือ ‘พระเอก’ ในลุคของแม่ทัพขั้นสี่ หลานลำดับที่ 9 ของตระกูลเซียว กำพร้าพ่อแม่ตอน 9 ขวบ โตกับมาย่า เข้าไปอยู่ในกองทัพตั้งแต่อายุรุ่นๆ จากนั้นก็เริ่มจับทัพชนะศึกสำคัญ อยู่รับใช้ฉีอ๋อง ชาติแรกมีใจรักต่อกู้เยียน แต่ไร้วาสนา ชาตินี้สมหวัง เกิดเหตุตกหลุมเสน่ห์ตอนเห็น ‘เอว’ นางเอกในงานเลี้ยง พี่ถึงกับเก็บไปฟันเปียก ชายขำแทบตาย
นิยามคำว่าเอวของนักเขียน อารมณ์เหมือนตอนอ่านหญิงงามแห่งฉางอัน ในยุคสมัยหนึ่ง ความสวยงามของสตรีไม่ได้อยู่ที่รูปหน้าเพียงอย่างเดียว อย่างเรื่องนี้ ผู้ชายจะหลงเสน่ห์หญิงที่มีเอวเล็ก ตัวเล็ก ก้นงอน อันเป็นองค์ประกอบของความเป็นหญิงงามอย่างหนึ่งตามยุคสมัย และกู้เยียนเองมีครบทุกองค์ประกอบ คำถามคือ… ผู้แซ่เซียวจะหนีไปไหนได้ ละเมอเพ้อพกจนไข่พี่ระเบิดไม่รู้จักกี่รอบ
ความหื่นห่าม ศีลแตกของผู้แซ่เซียวตั้งแต่เปิดตัวยันจบเล่ม 5 ไม่เคยลดลงเลยถวิลศรี ยิ่งพอพ้นจากการได้นางเอกมาเป็นภรรยา นักเขียนก็จัดหนักจัดเต็มทุกวัน ทุกวันจนรู้สึกว่า พี่ควรพักบ้าง ดังนั้น.. บทพระนางไม่ต้องงมหา ตัวติดกันทั้ง 5 เล่ม อิ่มใจในส่วนของพระนาง
ทิ้งท้ายกับคุณชาย
ในภาพรวมชายมองว่า แนวหนังสือแบบนี้เหมาะกับคนใจเย็นหน่อย ชอบความละเอียดแบบตารางชีวิตประจำวันของตัวละคร และไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรที่ไปเรื่อย ๆ เช้า กลางวัน เย็น ค่ำ เหมือนที่ชายยกตัวอย่างมา ฉะนั้นเราต้องเลือกเองว่าเราชอบแนวเรื่อง-การเล่าแบบนี้ไหม โดยส่วนตัวชายไม่ผิดหวังนะ อ่านได้ แต่ก็ไม่ชอบมากแบบฮูหยินบุก จัดให้อยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ งานแปลหลายคนเคยเม้าท์ว่าเรื่องนี้แปลหลุด ชายพยามช่วยจับผิด มีอยู่ตามรายเล่มไม่เยอะ เล่มละ 2 – 3 จุด เป็นคำโดด ๆ หรือคำเรียกที่ไม่ต้องมองหานาน อย่างการเล่นคำงันงก ชีวิตเดิมในร่างใหม่ = ชีวิตใหม่ในร่างเดิม ตีตัวออกห่าง (หาก) หรือช่วงเล่ม 2 ติดคำว่าพลันนั้น
ไอ้ข้างบนเนี่ยไม่เท่าไหร่เพราะเหมือนมันหลุดตาตอนตรวจ แต่จุดที่ไม่ชอบเลยมีอยู่ตรงเดียว เขาใช้คำจิกเรียก ‘นังโง่’ ชายว่าตรงนี้น่าจะเกลาให้คำมันเบาลง เพราะคนที่พูดคือสามีภรรยา ไม่ได้พูดกับข้ารับใช้ ถ้าเปลี่ยนมาเป็น เจ้านี่มันโง่จริง ๆ เจ้านี่มันโง่เสียจริง เจ้ามันสิ้นคิด อะไรก็ว่าไป อ่านแล้วจะไม่สะดุ้งเท่าถูกสามีเรียกนังโง่ เรียกองค์หญิงว่านังโง่ แต่ทั้งนี้ใน 5 เล่มมันก็มีแค่ 2 จุดตรงนั้น มันไม่ได้ให้ทำภาพรวมงานแปลเสีย โดยรวมยังดีอยู่ จบการบรรยาย ปล.นังโง่ เป็นคำพูดของตัวละครอื่นนะ ไม่ใช่พระเอกนางเอก
จบไปแล้วนะคะกับรีวิวดีๆ จากเพจ คุณชายรีวิวหนังสือ หวังว่าใครที่ชอบ นิยายจีนโบราณ จะถูกใจแน่นอน เรื่องราวของ กู้เยียน ในหนังสือเล่มนี้เรียกได้ว่าเข้มข้นจนวางไม่ลงกันเลย แม้กระทั่งบทหวานก็หวานจนมดจะขึ้นหนังสือเลยทีเดียวรับรองว่าถูกใจนักอ่านที่ชื่นชอบสไตล์นี้อย่างแน่นอน สุดท้ายก็ขอให้นักอ่านทุกท่านสนุกสนานกับการอ่านหนังสือและอย่าลืมแวะมาดูหนังสือ นิยายดีๆ จาก Reeeed.com กันนะ