หนังสือที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้นั้นพูดได้ว่าเป็นอีกเล่มที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนชาวญี่ปุ่นที่ฝากผลงานไว้มากมากมายหลายเรื่อง แต่หนังสือเล่มที่หยิบมาในวันนี้นั้นนำเสนอด้วยมุมมองบริบทที่เราไม่ค่อยได้พบเห็นจากหนังสือในท้องตลาดมากนัก หนังสือเล่มนี้คือ จดหมายจากฆาตกร วรรณกรรมที่จะพาคุณไปดำดิ่งกับบทลงโทษที่สังคมมอบให้แก่ฆาตกรและคนใกล้ชิดแม้จะพ้นโทษทางกฎหมายไปแล้ว แต่เนื่องด้วยบทลงโทษทางสังคมนั้นแตกต่างออกไปเพราะไม่มีเวลาที่จะหมดลงซ้ำร้ายยังคงอยู่ตลอดไปทำให้แม้จะพ้นโทษออกมาก็เหมือนอยู่ในคุกที่ไม่มีวันได้ก้าวออกไป รีวิวหนังสือโดยเพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก ที่จะมาแนะนำถึงความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้กันใน รีวิว จดหมายจากฆาตกร
รีวิว จดหมายจากฆาตกร เมื่อบทลงโทษที่ฆาตกรและคนใกล้ชิดได้รับจากสังคมไม่มีวันจบสิ้น
“คนที่เคยถูกตัดสินจากกฎหมายมาแล้ว ก็ไม่ควรที่จะถูกคนในสังคมตัดสินลงโทษเป็นครั้งที่สอง” เราเคยได้ยินคำนี้จากซีรีย์หนึ่ง แต่เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้มาก
สำหรับหนังสือ “จดหมายจากฆาตกร” เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าบทลงโทษของสังคมรุนแรงกว่ากฎหมาย เพราะความเจ็บปวดนั้นคือการถูกสังคมเลือกปฏิบัติด้วยการตีตราแบบห่วงโซ่ ที่เรียกแบบนี้ก็เพราะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าผู้ที่ถูกลงโทษทางกฎหมาย ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่เฉพาะผู้นั้นแต่เสียงตีตรากลับสู่คนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรัก หรือคนในครอบครัว การถูกตัดสินด้วยกฎหมายมีระยะเวลาสิ้นสุด แต่การถูกสังคมตัดสินนั้นติดตัวไปตลอด วันนี้เพจรีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะเปลี่ยนแนวมารีวิวนิยายฆาตกรรมกันบ้างค่ะ
หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลนิยายยอดเยี่ยม จากสมาคมนักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนแห่งประเทศญี่ปุ่นครั้งที่ 52 อีกทั้งยังถูกแนะนำให้เป็นหนังสือดีที่เรือนจำต้องมีไว้ในห้องสมุด จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือคนในครอบครัวคือพี่ชายพลังมือฆ่าคนตายทำให้ได้รับโทษอยู่ในเรือนจำ จดหมายจึงเป็นสิ่งเดียวที่เป็นสื่อถึงความห่วงใยที่มีต่อน้องชายและบรรเทาความผิดในจิตใจได้ แต่สำหรับน้องชายการได้รับจดหมายไม่ใช่เรื่องที่ยินดี เพราะทุกครั้งที่ได้รับความเจ็บปวดก็ทิ่มแทงใจทุกครั้ง แม้แต่น้องชายยังรู้สึกขนาดนี้แล้วจดหมายที่ถูกส่งให้ลูกชายด้วยล่ะจะเกิดอะไรขึ้น? ความน่าสนใจของหนังสือที่ส่งให้ผู้อ่านมี 3 ด้านคือ สารฆาตกร, สารจากคนในครอบครัวฆาตกรและสารจากสังคมที่มีต่อคนในครอบครัวฆาตกร
(1) สารจากฆาตกร
ความยากจนเป็นจุดแตกหักที่เขาไม่สามารถยอมรับให้น้องชายคนที่รักต้องออกจากโรงเรียนจึงตัดสินใจชิงทรัพย์แต่ความผิดพลาดทำให้เขาพลั้งมือฆ่าเจ้าของทรัพย์ ตัวละครตัวนี้ไม่ได้เป็นสีขาวดำ แต่เป็นสีเทาคือเป็นการผสมทั้งความดีและความชั่ว ทางออกเดียวที่จะถ่ายทอดความรู้สึกผิด คือจดหมายในเรือนจำ จดหมายไนี้ได้ถูกส่งให้น้องชายและลูกชายของผู้ตายโดยที่ไม่รู้ว่าอีกมุมของผู้รับสารเหล่านั้นจะรู้สึกอย่างไร เรารู้สึกว่าตัวละครนี้เป็นจุดสำคัญของเรื่องเลยก็ว่าได้เพราะการติดคุกก็เหมือนหัวใจที่ถูกคุมขังไว้ ความอึดอัดมันแน่นจนต้องระบายออกมา
(2) สารจากคนในครอบครัวฆาตกร
สารนี้ถูกส่งให้ผู้อ่านอย่างเรารับรู้ถึงมุมนึงของคนใกล้ชิดที่ว่า การถูกเลือกปฏิบัติของคนรอบข้างมันแย่ยังไง ด้วยบริบทของสังคมญี่ปุ่นด้วยทำให้ประเด็นนี้รุนแรงเกินกว่าจิตใจของคนคนหนึ่งจะรับไหว ผู้เขียนพาให้เราไปติดตามชีวิตของน้องชายฆาตรกรผู้นี้ตั้งแต่พี่ชายถูกตัดสินโทษ ผลกระทบนี้ทำให้เขาต้องเจอกับปัญหาในสถาบันการศึกษา การเลือกที่ทำงาน การปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่และความรักที่ปกติเป็นไปได้แต่สำหรับน้องชายฆาตรกรแล้วควรเลือกคนที่รักหรือคนที่เป็นไปได้กันแน่ เรื่องราวรอบตัวดูเป็นข้อจำกัดที่ไม่สามารถให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระสักเท่าไร สาเหตุหนึ่งคือการต้องปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่จดหมายของพี่ชายนี่แหละที่เหมือนระเบิดเวลารอคอยให้มีคนใหม่ๆ รู้อยู่ตลอด
(3) สารจากสังคมที่มีต่อคนใครอบครัวฆาตกร
ปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่แสดงออกแบบเลือกปฏิบัติก็เพราะความกลัวในใจจึงด่วนตัดสินว่าพี่เป็นฆาตกรได้ น้องก็เป็นฆาตกรได้เช่นกัน แน่นอนว่าเขาถูกลดความเชื่อใจจากคนรอบข้างหลายๆ คนที่รู้เรื่องนี้เข้า ความน่าสนใจคือผู้เขียนพยายามเปิดหัวใจของตัวละครแวดล้อมผ่านสถานการณ์ต่างๆ เช่น คุณครูที่พยายามช่วยหางานให้แต่ความกังวลใจของครูผู้นั้นคือไม่รู้ว่าความช่วยเหลือนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องรึเปล่า เพราะเขาเข้าใจดีว่าคนแปลกหน้าที่รับเข้าทำงานไม่ใช่ทุกคนจะรับเรื่องนี้ได้ ทางออกคือให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับแม้แต่กับหัวหน้าที่รับเข้าทำงาน นี่ก็เป็นอีกชนวนเพราะความลับไม่มีในโลก ถ้าเรื่องราวถูกเปิดเผยอีกครั้ง การถูกเลือกปฏิบัติระหว่างเพื่อนร่วมงานกับหัวหน้าในชีวิตการทำงานของเขาจะเป็นอย่างไร ?
ในตอนแรกที่อ่านมีเรื่องที่อึดอัดใจอยู่บ้างเพราะไม่เข้าใจสังคมญี่ปุ่นที่มีการเลือกปฏิบัติที่รุนแรงและอิทธิพลในทิศทางชีวิตขนาดนี้แต่เมื่อลอง Empathize ในมุมมองของตัวละครแล้วก็เข้าใจว่าไม่ใช่แค่การกลัวคนอื่นตัดสินเท่านั้น แต่เราก็ตัดสินตัวเองไปก่อนแล้วเหมือนกัน ตัวละครน้องชายของฆาตรกรรีบดึงตัวเองออกจากคนรอบข้างทันทีที่เรื่องราวของเขาถูกเปิดเผยแม้ว่าจะมีคนบางคนที่เข้าใจก็ตาม แม้แต่คนที่รักมาก เขาก็ยอมทิ้งความสุขตรงนั้นไปเพื่อไม่ต้องเผชิญปัญหาที่ตามมาจากการตีตราของครอบครัวของเธอ เขาเลือกที่จะไม่สู้เพราะรู้ดีว่าเขาคือน้องชายฆาตกรที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้
จดหมายของฆาตรกรที่น้องชายได้รับ มันคือการตอกย้ำว่าชีวิตที่ยุ่งยากนี้ได้มาเพราะพี่ตัวเอง เมื่อใกล้ถึงวันที่พี่จะพ้นโทษแล้วเขาจะให้อภัยและอยู่กันเป็นครอบครัวอีกครั้งได้หรือไม่ ในอีกด้านของผู้ที่ได้รับจดหมายคนนั้นคือลูกชายผู้ตาย เขารู้สึกยังไงกันแน่กับจดหมายที่ได้รับ สำหรับสิ่งที่เราเคยฟังมาจากข่าวในประเทศไทยสิ่งที่ผู้เสียหายจากการสูญเสียในคดีฆาตกรรมต้องการมากที่สุดคือ “คำขอโทษอย่างจริงใจ” ที่จะช่วยเปิดหัวใจยกโทษให้อีกครั้งแต่สำหรับบริบทนี้ยังใช้ได้อีกหรือไม่ บทสรุปของเรื่องนี้จะบอกให้ว่าการขอโทษที่ดีที่สุดของฆาตกรที่คนใกล้ชิดและผู้เสียหายที่อยากได้รับมากที่สุดคืออะไร? รับรองคำตอบได้ว่าลึกซึ้งและชวนให้เราคิดต่อไปได้มากจริงๆ ค่ะ
และทั้งหมดคือรีวิว จดหมายจากฆาตกร หนึ่งในผลงานเรื่องเยี่ยมของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ที่ได้สะท้อนถึงมุมมองที่ฆาตกรและคนใกล้ตัวได้รับจากสังคมหรือแม้แต่ตัวเอง เป็นอีกหนึ่งด้านที่เรามักไม่ค่อยได้พบเห็นกันมากนักแต่ก็แสดงออกให้เห็นถึงบทลงโทษอันไม่มีวันจบสิ้นแม้โทษทางกฎหมายจะจบลงไปแล้วก็ตามที่และคำตอบจากทางผู้เสียหายว่าต้องการอะไรจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น ใครที่อยากรู้ก็อย่าลืมไปตามหาอ่านกันจนจบนะคะเป็นอีกเล่มที่ไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลทั้งปวงที่กล่าวมา และขอขอบคุณเพจ รีวิวทุกอย่างที่อ่านออก ที่นำหนังสือเล่มนี้มาบอกต่อถึงความน่าสนใจและเนื้อหาพอสังเขปภายในเล่มนะคะ