ในภาษาไทยนั้นมีคำเรียกคนที่เก่งหลายๆ อย่างแต่ไม่สุดสักด้านว่า “เป็ด” นั้นเพราะเป็ดทำได้ทั้งบินและว่ายน้ำแต่ก็ไม่เชี่ยวชาญสักอย่างเหมือนนกกับปลา โดยค่านิยมคนส่วนมากมองว่าการเก่งให้เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่หนังสือที่เรานำมารีวิวกันในวันนี้จะทำให้มุมมองของคนที่เก่งแบบ “เป็ด” เปลี่ยนไป เพราะคนที่เก่งแบบเป็ดก็มีข้อดีในแบบของตัวเองและยังมีจุดแข็งที่คนที่เก่งด้านใดด้านหนึ่งอาจเทียบไม่ติดอยู่ด้วยเช่นกัน หนังสือเล่มนั้นคือ วิธีผู้ชนะฉบับคนเก่งแบบเป็ด how to be better at (almost) everything ที่จะมาเสนอมุมมองใหม่ๆ ของคนที่เก่งแบบเป็ดให้คุณได้รู้จักกัน
รีวิว วิถีผู้ชนะฉบับคนเก่งแบบเป็ด how to be better at (almost) everything
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Pat Flynn นักคิด นักเขียน นักธุรกิจ นักเทควันโด โดยได้นำเสนอถึงความสำคัญของการมีทักษะหลายด้านให้เก่งแบบกว้างๆ มากกว่าการเก่งด้านใดเพียงด้านหนึ่ง โดยผู้เขียนได้แสดงให้เห็นว่าการมีทักษะหลายๆ ด้านนั้นมีข้อดีอย่างไรบ้าง อาทิ คุณจะไม่เป็นคนน่าเบื่อเพราะคนรู้ในหลายๆ สิ่ง หรือหากคุณกำลังมีธุรกิจการที่คุณมีความรู้กว้างขวางมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้คุณได้มากเท่านั้น และการพัฒนาเรียนรู้ใหม่ๆ นั้นเป็นสิ่งที่ดีและมนุษย์จะมีความสุขเสมอเมื่อได้รับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ส่วนจะพัฒนาตนเองให้เป็นเป็ดที่แข็งแรงได้อย่างไรนั้นเราจะพาไปพบกับสาระสำคัญในหนังสือเล่มนี้กัน
หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาแบ่งออกเป็้น 7 บท ทั้งยังมีบทส่งท้ายและแนะนำบุคคลตัวอย่างที่เก่งแบบเป็ดให้เราเห็นภาพด้วยเช่นกัน
บทที่ 1 เมื่อ “เก่งกว้าง” เป็นศัตรูกับ”เก่งลึก”
เมื่อเราเริ่มฝึกฝนหรือเชี่ยวชาญอะไรสักอย่างอย่างจริงจังเราจะพบว่าสังคมของเราจะแคบลง เราจะดึงดูดเฉพาะคนที่มีความสนใจหรือเชี่ยวชาญแรงเหล่านั้นอย่างจริงจังด้วยกัน แต่การเรียนรู้ทักษะหลายๆ ด้านจะทำให้คุณดึึงดูดความสนใจของคนได้กว้างยิ่งขึ้น ในการแข่งขันเฉพาะทางคนที่เก่งในด้านนั้นเฉพาะอาจจะได้เปรียบกว่าก็จริง แต่คนที่เก่งแบบเป็ดสามารถทดแทนได้ด้วยการหาทักษะใหม่ๆมาพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
บทที่ 2 สู่อิสระในการเป็นเลิศ
การมีอิสระในความเป็นเลิศนั้นไม่ใช่การทำอะไรตามใจ แต่เป็นการทำบางอย่างที่มีคุณค่าแก่ชีวิตคุณ โดยคนที่อยากพัฒนาตนเองไม่ว่าจะในด้านใดนั้น ต้องมีความต้องการในการมีอิสระความเป็นเลิศ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการมีวินัยที่จะทำอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการทำสิ่งสำคัญที่ทำง่ายเพราะจะทำให้คุณสูญเสียอิสระน้อยที่สุดและสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง
บทที่ 3 5 กฎเหล็กเปลี่ยนคุณเป็นสุดยอดคนเก่งกว้าง
บทนี้พาคุณไปรู้จักหลักการสำคัญที่จะทำให้คุณพัฒนาเป็นคนเก่งแบบเปิดได้
-เรียนทักษะหลายด้านเพื่อใช้ร่วมกันดีกว่าพัฒนาทักษะเดียว
-จงเป็นคนเก่งลึกระยะสั้น
-เก่งแค่ 80% ก็พอ
-โฟกัสแต่ทักษะจำเป็นตามเป้าหมายจำเป็นที่ตั้งไว้
-หมั่นฝึกฝนและเพิ่มระดับความยาก
บทที่ 4 เทคนิคฝึกฝนให้เก่งและพัฒนาให้เก่งขึ้น
บทที่ 4 มุ่งเน้นไปที่การขยายความของกฎทั้ง 5 ข้อมาเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นพร้อมๆ กับยกตัวอย่าง อาทิ “เรียนทักษะหลายด้านเพื่อใช้ร่วมกันดีกว่าพัฒนาทักษะเดียว” ผู้เขียนได้เล่าถึงครูสอยกีต้าของตนเองที่เล่าว่ามือกีต้าที่อยู่ได้ในวงการดนตรีเพราะเติมเต็มบทบาทอื่นๆ ที่คนทำงานต้องการทั้งในฐานะนักดนตรีและห้องอัด โดยอาจารบ์ของเขาแสดงให้เห็นว่าสามารถเล่นเพลงได้หลากหลายและเล่นเครื่องดนตรีอื่นๆ ได้มากกว่ากีต้า
บทที่ 5 เริ่มพัฒนาตนเองจากทักษะพื้นฐาน
การที่เราจะเก่งทักษะหลายๆ ด้านและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้นั้นสิ่งจำเป็นคือการเริ่มเรียนรู้จาก “ทักษะพื้นฐาน” นั้นเพราะทักษะพื้นฐานนั้นมีความสำคัญที่เราสามารถนำไปปรับใช้กับอะไรก็ได้ ก่อนที่เราจะกำหนดตัวตนที่ต้องการขึ้นมาและมองหา “ทักษะที่สนใจ” และพัฒนา “ทักษะจำเป็นขึ้นมา” เพื่อเชื่อมโยงทักษะที่เราสนใจให้กลายเป็นอาชีพได้
บทที่ 6 ทักษะที่คุณสนใจ (แต่อาจไม่จำเป็น)
กล่าวถึงขั้นตอนการพัฒนาทักษะในสิ่งที่คุณอยากเป็น โดยการกำหนดเป้าหมายเอาไว้และลงมือปฏิบัติในสิ่งที่เราอยากเก่ง การที่เราทำในสิ่งที่เราสนใจนั้นจะก่อให้เกิดการทำอย่างเป็นวินัยโดยไม่ต้องรู้สึกสูญเสียอิสระภาพจนเกินไป โดยการนำกฎ “จงเป็นคนเก่งลึกระยะสั้น” มาใช้เพื่อศึกษาสิ่งนั้นอย่างจริงจังจนเก่งมากพอ ก่อนจะใช้ “โฟกัสแต่ทักษะจำเป็นตามเป้าหมายจำเป็นที่ตั้งไว้” ในการศึกษาทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อไป
บทที่ 7 ทักษะจำเป็น (แต่คุณอาจไม่สนใจ)
ในตอนนี้เมื่อคุณมีมีความเชี่ยวชาญในทักษะที่ต้องการดีพอแล้ว แต่การนำทักษะต่างๆ มาทำงานร่วมกันในหลายๆ ครั้งก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เราจำเป็นต้องมีการจัดการวางแผนเพื่อให้เกิดความสอดคล้องและพัฒนาทักษะที่ส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมที่ดีขึ้น โดยผู้เขียนได้ยกตัวอย่างตอนที่เขาทำธุรกิจออกกำลังกาย เขาศึกษาทักษะการทำธุรกิจออนไลน์มากมาย ก่อนจะพบว่าคู่แข่งมีการเขียนโฆษณามากมายที่น่าสนใจ ผู้เขียนมีทักษะงานเขียนและทำธุรกิจออนไลน์อยู่แล้ว แต่เป็นทักษะงานเขียนที่ไม่ได้เกี่ยวกับโฆษณา เมื่อเขาศึกษาเกี่ยวกับการเขียนโฆษณาเพิ่มขึ้นก็มีผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมบล็อคของเขาเพิ่มขึ้น นี่คือการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะบางอย่างที่จำเป็นในการทำให้เกิดการทำงานร่วมกันของทักษะที่คุณเชี่ยวชาญ
จะเห็นได้ว่าคนที่เก่งแบบเป็ดนั้นเป็นคนที่มีความรู้และทัษะหลายๆ ด้านที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันให้เกิดประโยชน์ได้มากมายและยืดหยุนตามทักษะที่ตนเองสนใจ เพราะฉะนั้นใครที่ยังเก่งแบบเป็ดอยู่ก็ไม่ต้องรู้สึกน้อยใจเพียงคุณพัฒนาตนเองอยากถูกวิธีคุณก็จะเป็นเป็ดที่เข้มแข็งได้เช่นกัน
ซื้อหนังสือ วิถีผู้ชนะฉบับคนเก่งแบบเป็ด : How to be Better at (Almost) Everything