หนังสือความเรียงที่นำเสนอมุมมองน่ารักๆ ของชีวิตมนุษย์ ผ่านสายตาของแมวที่เรามักเชื่อว่าพวกเขามี 9 ชีวิต เจ้าแมวเหล่านี้นั้นเฝ้ามองดูมนุษย์อยู่ในทุกชีวิตของมัน ปัญหาต่างๆ มากมายที่เหล่ามนุษย์พบเจอไม่ว่าเป็น คุณค่าของชีวิต ความรัก ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา ความรู้สึกสิ้นหวัง ทุกสิ่งเหล่านั้นหากมองในมุมมนุษย์ทั่วๆ ไปคือสิ่งที่ทุกคนต่างเผชิญ ซ้ำร้ายยังต้องพบเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีกด้วย แล้วในมุมมองแมวละ ในที่นี้หมายถึงการลองปรับมุมมองให้ง่ายลงดูสักหน่อยไม่ได้หมายถึงเป็นการนำเสนอของมุมมองของแมวจริงๆ เพียงอยากให้เราได้สำรวจตัวเองและแก้ไขบางอย่างให้ง่ายขึ้น ได้ลองมองแบบแมวๆ
รีวิว แมว 9 ชีวิตสอนฉันว่า เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว
หนังสือได้นำเสนอเนื้อหาแบ่งเป็นชีวิตทั้ง 9 ของแมวเป็นบทละ 1 ชีวิต ที่เฝ้ามองดูพฤติกรรมของมนุษย์และอยากจะเป็นที่ปรึกษาปัญหาให้เราทุกคนสักหน่อย ทำอย่างไรกับความรัก ปัญหาชีวิตในทุกๆ วันจะแก้ไขยังไง ไปลองคุยกับแมวแต่ละชีวิตของเจ้าแมวพวกนี้กันค่ะ
ชีวิตที่ 1 ไมว่าใครก็ใช้ชีวิตนี้ เป็นครั้งแรกกันทั้งนั้น
บทแรกกล่าวถึงทุกสิ่งที่เราเจอนั้นล้วนเป็นเรื่องปกติ ปกติในที่นี้คือเราไม่มีทางรู้หรอกว่ามีอะไรเข้ามาบ้าง จะพบความผิดพลาด ผิดหวัง ทุกข์ สุขแบบไหน เพราะเราทุกคนล้วนใช้ชีวิตเป็นครั้งแรกกันทั้งนั้นมีช่วงเวลาดีบ้าง ร้ายบ้าง ปะปนกันไป แม้หากเรามีโอกาสมี 9 ชีวิตแบบเจ้าแมวน้อยดูแล้วละก็ ยังไม่มีอะไรมารันตีได้ด้วยซ้ำว่าเราจะมีความสุข
ชีวิตที่ 2 มีแต่ความรักของฉันหรือเปล่าที่เหนื่อยขนาดนี้
เรื่องนี้พูดถึงธรรมชาติของความรัก แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรเข้าใจคือการมีความรักเป็นเรื่องแสนวิเศษณ์อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ก็ใช่ว่าจะราบรื่นเสมอไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่ามีคนให้และคนรับมากกว่าเมื่อนั้นความรักจะเริ่มมีปัญหา ใครที่อดทนต่ออีกฝ่ายมากกว่าก็ใช่ว่าจะดีเหมือนกัน เพราะเป็นความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันนั้นจะมีปัญหาตามมา เหมือนในหนังสือกล่าวเปรียบเทียบหมาและแมว ที่หมาจะกระดิกหางเมื่อมีความสุข แต่แมวจะกระดิกหางเมื่อโมโห
ชีวิตที่ 3 การลาจากย่อมเป็นเรื่องเศร้า
เมื่อความรักจบลงการจากลาย่อมเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างเสียไม่ได้ อีกความน่าสนใจของบทนี้คือการให้เราลองทำความเข้าใจดูว่านี่คือ ความรัก หรือ การยึดติด กันแน่ หนังสืออยากให้เราหาคำตอบนี้กับตัวเองให้ได้ เพราะบ่อยครั้งมันเป็นแค่การยึดติดไม่ใช่ความรัก หากคุณกล้าก้าวออกจากการยึดติดนั้น จะส่งผลดีต่อชีวิตคุณมากกว่าแน่นอน
ชีวิตที่ 4 กลับมามีความกล้าอีกครั้ง
การกลับมากล้าอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกันการยอมรับความล้มเหลวและเผชิญหน้ากับความจริงคือบทเรียนสำคัญที่มนุษย์ทุกคนควรเรียนรู้เช่นกัน หากคุณสามารถยอมรับความจริงได้ ยอมแพ้เป็นและให้เวลาตัวเองได้พัก ไม่นานนักทุกสิ่งจะกลับมาดีดังเดิม ชีวิตทุกคนล้วนมีทั้งวันที่มืดมิดและสว่างไสวเช่นกันทุกคน
ชีวิตที่ 5 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะเชื่อตัวเอง
จงเชื่อมั่นในตัวเองอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญ การฟังเสียงของหัวใจอย่าหวั่นไหวไปกับคนรอบข้างจะทำให้เรามีจุดยืนเป็นของตัวเองชัดเจน การมีชีวิตอยู่นั้นจุดยืนถือว่าสำคัญมาก ขาที่มั่นคงของเราจะกลายเป็นสิ่งที่แสดงตัวตนและพาตัวเองเดินไปในเส้นทางที่ใจปรารถนาได้ หากคุณไม่ชัดเจนกับตัวเองเราจะใช้ชีวิตที่ตามใจคนอื่น
ชีวิตที่ 6 เป็นคนที่ดีสำหรับคนดีเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องใจดีกับใครทุกคนหรอก เราควรใจดีแค่กับบางคนเท่านั้น คนที่สำคัญ คนที่รักเรา และเหนือสิ่งอื่นใดใจดีกับตัวเองซะนะ อีกอย่างที่บทนี้พูดคือบ่อยครั้งการกระทำของคนที่เรารักก็ไม่ได้เป็นไปแบบที่เราคาดหวัง เพราะฉะนั้นเราควรคาดหวังให้น้อยลงและลองทำความเข้าใจถึงเหตุผลของการกระทำจะดีกว่า
ชีวิตที่ 7 บางครั้งความเจ็บปวดก็กลายเป็นพลัง
ความเจ็บปวดเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยากเจอ มันแแย่มากๆ เมื่อเราต้องเผชิญหน้าความเจ็บปวด แต่เราทุกคนก็เรียนรู้จากความเจ็บปวดถูกไหมละและบ่อยครั้งมันได้กลายเป็นพลังผลักดันให้เราเป็นคนใหม่ได้เช่นกัน เพราะงั้นอย่ากลัวความเจ็บปวด แต่เผชิญหน้ากับมันและเรียนรู้บทเรียนจากความเจ็บปวดนั้น
ชีวิตที่ 8จะมีความสุขเท่าที่ใจต้องการ
ในเมื่อคุณมีวันฟ้าหม้น มีวันที่โชคร้าย สิ่งแรกที่ต้องรู้คือมันจะผ่านพ้นไปในสักหวันหนึ่ง จงโหยหาความสุขซะ มันไม่ใช่เรื่องผิด ทุกคนล้วนควรมีความสุขกันทั้งสิ้นแม้แต่คุณเอง มีคนมากมายที่รักคุณอย่างแน่นอน ความสุขในบางครั้งอาจจะไม่อยู่ตรงหน้า แต่คนที่เรียนรู้และยอมรับความเจ็บปวดจะเจอความสุขที่แท้จริงองย่างแน่นอน
บทส่งท้าย แมวที่อยู่มา 9 ชีวิต
บทสุดท้ายนี้เจ้าเหมี่ยวอยากบอกคุณว่าทั้งชัวร์ชีวิตนี้บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากทำอะไรเลย อยากนอนเป็นตัวกลมๆ อ้วนๆ อยู่เฉยๆ อย่ากลัวความผิดพลาด อย่ากลัวล้มเหลว เพราะเจ้าเหมียวบอกคุณว่าถ้าล้มเหลวก็แค่เริ่มใหม่
ซื้อหนังสือ แมว 9 ชีวิตสอนฉันว่า เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว เหมียว