เค็นเน็ธ เกรแฮม (Kenneth Grahame) เป็นนักเขียนชาวสกอตและอังกฤษที่เป็นผู้เขียนหนังสือเล่มเดียวที่เป็นตำนานในวรรณกรรมเด็ก หนังสือเล่มนั้นชื่อ The Wind in the Willows ซึ่งเป็นเรื่องราวของสัตว์ที่พูดได้ และได้รับความนิยมมากมายอย่างแพร่หลาย หนังสือเล่มนี้ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์และอนิเมชั่นในหลายรูปแบบ และยังคงเป็นหนังสือที่น่าอ่านสำหรับเด็กและผู้ใหญ่จนถึงปัจจุบัน วันนี้ Reeeed จะพานักอ่านทุกท่านไปรู้จักกับอีกหนึ่งตำนานที่อยู่คู่วงการนักเขียนท่านนี้กันค่ะ
ประวัติ เค็นเน็ธ เกรแฮม Kenneth Grahame
เค็นเน็ธ เกรแฮม (Kenneth Grahame) เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 1859 ในเมืองเอดินบะระในสกอตแลนด์ ครอบครัวของเขาทำงานให้กับเจ้าของเหมืองถ่านหิน แต่พ่อของเขาเสียชีวิตเมื่อเขาอายุได้เพียง 5 ขวบ และตัวเขาเองก็ไม่ได้รับการศึกษาที่ดีนักเนื่องจากฐานะครอบครัวที่อยากจน
เขาเริ่มเขียนเรื่องราวและบทความตั้งแต่วัยเยาว์ แต่สิ่งที่เขามีความสนใจมากที่สุดคือการเล่นในสวนสัตว์ของป้าของเขา การเล่นในสวนสัตว์เป็นแรงบันดาลใจให้กับเขาในการเขียน The Wind in the Willows หลังจากเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนโปรตีนส์ในโอกฮามและโรงเรียนเซนต์เอ็ดมันด์ในโอกฮาม จึงได้เริ่มทำงานธนาคารแห่่งหนึ่งในลอนดอน ต่อมาเขาได้เขียนและตีพิมพ์หนังสือเล่มแรกของเขา Pagan Papers ในปี 1893
The Wind in the Willows ได้รับการเผยแพร่เป็นตอนๆ ในตำนานในวารสารเดือนเดียวกัน ก่อนที่จะถูกสร้างเป็นหนังสือเล่มเดียวในปี 1908 โดยได้รับความนิยมในหลายประเทศ หลังจากนั้น เขาได้เขียนหนังสือเล่มอื่นๆ อีกหลายเล่ม เช่น The Golden Age และ Dream Days
ทั้งนี้ เมื่อ The Wind in the Willows เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เขาได้ลาออกจากงานธนาคารและตั้งใจทำงานเป็นนักเขียนอิสระ ในช่วงที่เขาเป็นนักเขียนอิสระโดยเฉพาะในช่วงปี 1914-1918 เขาเขียนบทความและเรื่องสั้นสำหรับหนังสือพิมพ์ The Times โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังจากสงครามครั้งที่หนึ่งจบลง เขาได้เขียนและตีพิมพ์หนังสือเล่ม The Reluctant Dragon ซึ่งกลายเป็นหนังสือเล่มเดียวที่เขาเขียนสำหรับเด็กที่ไม่ได้เป็นเรื่องราวของสัตว์ที่พูดได้
Kenneth Grahame สิ้นชีวิตเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2475 (ค.ศ. 1932) และเขายังคงเป็นนักเขียนที่ได้รับการยกย่องในวงการวรรณกรรมเด็ก โดยเฉพาะ The Wind in the Willows
ผลงานของ เค็นเน็ธ เกรแฮม Kenneth Grahame
The Wind in the Willows
มีเนื้อหาเกี่ยวกับการผจญภัยของสัตว์ที่มีจิตวิญญาณผู้อ่านจะได้พบกับเรื่องราวของชาวหนูชื่อ Mole, Ratty, Badger และ Mr. Toad ที่มีอาชีพและความสนใจต่างกัน แต่ต่างมาพบกันและมีการผจญภัยร่วมกัน โดยเนื้อเรื่องแบ่งออกเป็นหลายตอน โดยทุกตอนมีเนื้อหาที่น่าสนใจและความ่นาหลงใหลแตกต่างกันไป หนังสือเล่มนี้เน้นคุณค่าของการเป็นมนุษย์ โดยส่วนใหญ่เป็นการพูดถึงเรื่องของการเป็นมิตรกับสัตว์ การให้ความรักและความเข้าใจต่อกัน และคุณค่าของความเป็นจริง โดยเนื้อเรื่องไม่มีการจำกัดว่าเป็นหนังสือเด็กเท่านั้น แต่กลับเป็นหนังสือที่เหมาะสมที่จะอ่านให้เด็กและผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน
นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าสนใจแล้ว สไตล์การเขียนของ Kenneth Grahame ก็ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก เขาเขียนโดยใช้ภาษาอังกฤษโบราณที่สวยงาม และมีการใช้คำพูดของตัวละครให้ตรงกับลักษณะและบุคลิกของตัวละคร นอกจากสไตล์การเขียนที่น่าสนใจแล้ว The Wind in the Willows ยังมีการสร้างโลกความเป็นจริงให้กับตัวละครอย่างมีชีวิตชีวาอย่างมาก โดยใช้รายละเอียดเล็กๆ ที่เขียนลงไปอย่างละเอียดในการบรรยายตัวละครทำให้ผู้อ่านได้รับรู้รายละเอียดที่ชัดเจนตรงกับความเป็นจริงของโลกในหนังสืออย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาษาที่สวยงามและสละสลวย ทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้สามารถพาผู้อ่านเดินทางไปยังโลกของนักเล่าเรื่องที่เก่งกาจผู้นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Dream Days
Dream Days เป็นชุดเรื่องราวเด็กของ Kenneth Grahame ที่เป็นเรื่องราวที่แตกต่างกับ The Wind in the Willows ในแง่ของลักษณะการเล่าเรื่องและเนื้อเรื่อง ซึ่งเน้นไปที่ความฝันและความจินตนาการของเด็ก ๆ ในช่วงเวลาเด็ก ๆ ที่ต้องเผชิญกับความเหงาและความเหงา ๆ ของชีวิตประจำวัน แต่ก็มีความสุขและความสนุกสนานในช่วงวัยนี้ด้วย หนังสือชุดนี้ประกอบด้วยเรื่องราวสั้น ๆ หลายเรื่อง ที่ได้รับความนิยมในปีที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1898 ซึ่งเนื้อเรื่องของแต่ละเรื่องนั้นมีความสนุกสนานและน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่อง “The Reluctant Dragon” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีตัวละครมากมายและมีความสนุกสนาน โดยเรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังสือเล่มเดียวและเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็ก ๆ มาก
โดยรวมแล้ว Dream Days เป็นหนังสือที่น่าสนใจและน่ารัก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นพบความสุขและความสนุกสนานในช่วงวัยเด็ก ๆ อีกทั้งยังมีการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์และน่าสนใจอย่างมาก เรื่องราวใน Dream Days เป็นการเล่าเรื่องที่มีความสมบูรณ์แบบและสนุกสนานอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เล่มหนังสือนี้กลายเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมมากในยุคต่อมา นอกจากเรื่อง “The Reluctant Dragon” ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ยังมีเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจเช่นกัน อาทิเช่นเรื่อง”The Twenty-First of October ซึ่งเล่าถึงความคิดของเด็กๆ ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน และเรื่อง The Magic Ring ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวของเด็กที่ได้พบกับแหวนมหัศจรรย์
The Golden Age
เป็นสารคดีที่เล่าถึงช่วงวัยเด็กของ Kenneth Grahame โดยเล่าเรื่องราวผ่านประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของเด็ก ๆ ที่อยู่ในสังคมชั้นกลาง ในช่วงยุคที่ไม่มีโทรทัศน์หรืออินเทอร์เน็ต การเล่าเรื่องเหล่านี้ได้รับความนิยมมากในยุคต่อมา เนื่องจากเป็นการอธิบายถึงช่วงวัยเด็กและความบันเทิงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่เป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์วรรณคดีอังกฤษ หนังสือ The Golden Age มีเนื้อเรื่องหลากหลาย โดยเน้นไปที่ชีวิตของเด็ก ๆ ในยุคนั้น ซึ่งถูกเล่าในภาพเรื่องสั้น ๆ หลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะเกี่ยวข้องกับความสนุกสนาน ความซับซ้อนและความรู้สึกของเด็ก ๆ ในช่วงวัยเด็ก ๆ ที่ต้องเผชิญกับโลกที่กว้างใหญ่และซับซ้อนของผู้ใหญ่ ผลงานนี้เป็นการอธิบายถึงความเรียบง่ายและความสุขในชีวิตประจำวันของเด็ก ๆ และชีวิตของเด็กในยุคนั้น ผู้อ่านสามารถพบเห็นถึงภาพลวงตาของชีวิตเด็กในยุคเก่าและเพลิดเพลินกับเรื่องราวต่าง ๆ ในหนังสือนี้
Pagan Papers
เป็นชุดเรื่องสั้นของ Kenneth Grahame ที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1898 ซึ่งเป็นแฟนตาซีความคิดของเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการต่อสู้กับกฎหมายและวัฒนธรรม เรื่องราวเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตของคนในยุคที่เขียน เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวที่ไม่ได้มีลักษณะนวนิยายหรือนิยายสั้นในทางเลือกของเนื้อเรื่อง แต่มีลักษณะของบันทึกประสบการณ์และความคิดของผู้เขียนเอง เนื้อเรื่องมีความหลากหลายในแต่ละบท โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวที่ผู้เขียนได้สังเกตเห็นในชีวิตประจำวันของเขาและวิวัฒนาการของสังคมในยุคที่เขียน ในบางเรื่องราวผู้เขียนได้ใช้ความตลกเพื่อสื่อความคิดและในบางเรื่องราวอาจจะมีลักษณะของนิยายสั้นแต่ก็ต้องเติมเต็มด้วยความคิดและสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อถึง การเขียนของ Kenneth Grahame ใน Pagan Papers นั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม นี่เป็นชุดเรื่องสั้นที่น่าอ่านและน่าสนุกสนานสำหรับผู้คนทุกยุคสมัย