ความตาย คือ สิ่งที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้วาระสุดท้ายที่วันหนึ่งทุกคนต้องเผชิญหน้า แต่ “ความตาย” ของเรานั้นจะมีความหมายอย่างไร ความตายของเรามีความหมายกับใครบ้างและคุณค่าของเราในขณะที่มีชีวิตอยู่มาพบกับนิยายแปลเรื่อง “ถ้าวันหนึ่งนั้น…ฉันตาย” นิยายเกาหลีที่ถ่ายทอดเรื่องราวความหมายของชีวิต ทั้งขณะที่มีชีวิตอยู่และเมื่อคุณจากไปความตายของคุณนั้นมีความหมายอย่างไรบ้าง อีกหนึ่งนิยายเกาหลีที่น่าสนใจและอยากแนะนำให้คุณได้ลองอ่าน รีวิวโดยคุณ 85mm มาร่วมหาความหมายและคุณค่าของชีวิตที่คุณตามหา อาจเป็นสิ่งเล็กๆ ที่คุณมองข้ามไปกับ นิยายแปล สัญชาติเกาหลีเล่มนี้กัน
เมื่อความตายพรากคนที่เรารักไปอย่างไม่เต็มใจ ยูมีเด็กสาวที่โอบอุ้มความเศร้าเอาไว้จะใช้ชีวิตอย่างไร ค้นพบความหมายของชีวิตได้ในหนังสือเล่มนี้ด้วยกัน
เราตื่นมาถามตัวเองว่า ทุกวันนี้ความสุขของเราคืออะไร การได้เจอเพื่อนร่วมงานดีๆ ได้งานเงินเดือนสูงๆ มีเวลาว่างไปนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือในร้านเก๋ๆ แถวบ้าน เที่ยวถ่ายรูปดูวิถีชีวิตธรรมชาติ มันเป็นแบบนั้นใช่หรือเปล่า
มาตรวัดความสุขของคนบางคนไม่เท่ากัน บางคนปรอทใหญ่เติมให้เต็มคงใช้เวลาหลายปี ส่วนบางคนแค่ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองมีอวัยวะครบ 32 มีเวลารดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน ตัดหญ้าทุกเดือน แค่นั้นก็พอแล้วจริงๆ
เรามีโอกาสได้อ่านหนังสือของแพรวนิยายแปล สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์ คิดว่าน่าจะเป็นนิยายแปลเกาหลีเล่มแรกๆ ของสำนักพิมพ์นี้เลยมั้ง เป็นผลงานในหมวด Heart Warming ที่เกาหลีและติดอันดับขายดีขายไปแล้วกว่า 400,000 เล่ม
‘เราทุกคนล้วนเคยรู้สึกอยากหายไปจากโลกนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต’
ใช่แล้ววันนี้เรากำลังพูดถึงหนังสือเรื่อง ‘ถ้าวันหนึ่งนั้น… ฉันตาย’ ผลงานโดยอีกยองเฮ ความตายของฉันจะมีความหมายอย่างไรกับคนรอบข้าง ด้วยความหน่วงนี้เองที่เรียกน้ำตาและทำให้เป็นที่พูดถึงในโลกของนักอ่าน
เรื่องราวของสองเพื่อนรักยูมีและเจจุน ที่มีพื้นฐานการเลี้ยงดูที่เรียกว่า Contrast กันมากๆ เจจุนเด็กหนุ่มที่ถูกเลี้ยงดูท่ามกลางความคาดหวังทั้งนิสัย ผลการเรียน ที่ทุกอย่างอยู่ในกรอบที่ครอบครัวกำหนด ส่วนยูมีเด็กสาวที่ครอบครัวให้อิสระในการใช้ชีวิต ทำให้เธอมีความกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ
Photo Credit by Luke Ellis-Craven
จากนิสัยที่แตกต่างกัน แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่หันมาพูดคุยและสุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันเอามากๆ ต้นเหตุที่ทำให้ทั้งคู่สนิทกันแนะนำให้ลองอ่านดูครับ แต่ด้วยเราเห็นว่าไม่ใช่สาระหลักของเรื่องนี้ เราเลยขอผ่านไปแบบไวๆ คำว่าสนิทที่กล่าวถึงนั่นหมายถึงทั้งคู่สามารถปรึกษาเรื่องส่วนตัวกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน ปัญหาครอบครัว ตลอดไปจนถึงความรัก
เราอาจตกหลุมรักคนในแบบที่เราชอบได้เสมอ แต่ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกก็คือสถานการณ์ในตอนนั้น จึงสรุปได้ว่า ‘ความรักคือจังหวะเวลา’
จุดพลิกผันของเรื่องคือวันหนึ่งด้วยวัยเพียง 15 ปี อุบัติเหตุทางรถยนต์ได้จบชีวิตของเจจุนลง เหตุการณ์ดังกล่าวพลิกหัวใจอันสดใสของยูมี ให้กลายเป็นความเศร้าที่ไม่อาจหาคำใดๆ มาอธิบายได้ ยูมีที่เริ่มมีมุมมองต่อโลกเปลี่ยนไป กล่าวโทษทุกสิ่งบนโลกและโอบกอดความเศร้าไว้เสมือนเป็นตัวแทนของเพื่อนรักที่จากไป
‘ทำไมพระเจ้าต้องประทานความตายให้มนุษย์ด้วย หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ควรพรากวิญญาณของพวกเราไปตามลำดับที่เกิด ทำไมต้องประทานความตายที่น่าหดหู่แบบนี้ด้วย น่าผิดหวังเหลือเกินที่พระองค์ตัดสินความตายอย่างสะเปะสะปะแบบนี้’
วันหนึ่งคุณแม่ขอเจจุนขอพบกับยูมีเพื่อมอบไดอารี่ของเจจุนให้กับยูมี ในขณะที่คุณแม่ของเจจุนไม่กล้าอ่านเพราะกลัวจะทำใจไม่ได้ ยูมีเองก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ หน้าแรกของไดอารี่เขียนไว้ว่า
‘ถ้าวันหนึ่งฉันตาย…ความตายของฉันจะมีความหมายอย่างไรกัน’
Photo Credit to Masjid Pogung Dalangan
ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องราวในไดอารี่ที่เจจุนเขียน ไม่ว่าจะพูดถึงยูมี คุณแม่และใครก็ตาม เราเรียนรู้ได้ว่า เจจุนคือเด็กหนุ่มที่มีจิตใจค่อนข้างใสอะอาด มีมุมมองที่อ่อนโยนต่อโลกและคนรอบข้าง เนื้อหาในไดอารี่ที่สุดท้ายได้ทำให้คนอ่านเห็นถึงความสำคัญของการมีชีวิตอยู่ ในแต่ละวันเราใช้ชีวิตอย่างไรและเราทำทุกวันได้ดีที่สุดแล้วหรือยัง
‘วันหนึ่งฉันคิดขึ้นได้ว่า วันสำคัญที่เราเคยทำกิจกรรมไปอย่างส่งๆ นั้นมีค่าแค่ไหน ฉันจึงมอบดอกไม้ให้พ่อกับแม่อย่างตั้งใจ หลังเลิกเรียน พอกลับมาบ้านก็ช่วยแม่ทำงานบ้าน คิดว่าถ้าฉันตายไปตอนนี้ ต่อให้อยากทำแค่ไหนก็ไม่มีโอกาสแล้ว’
ถ้าวันหนึ่งนั้น…ฉันตาย หนังสือเล่มนี้รวมแล้วกล่าวถึง ‘มิตรภาพ’ ‘ความรัก’ และแน่นอนรวมไปถึง ‘ความตาย’ ถามว่าอ่านแล้วหดหู่ไหม ส่วนตัวเราไม่ได้หดหู่ขนาดนั้น แต่เรากำลังเรียนรู้ชีวิตไปพร้อมกับยูมี Meaning of Life ที่เจจุนยึดมั่น ความรักที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจของเจจุน ถ่ายทอดจากไดอารี่ ผ่านมายังยูมีและส่งต่อมาถึงนักอ่านอย่างเรา
ในส่วนที่ว่าไดอารี่ของเจจุนว่าอย่างไรนั้น เราไม่ได้ลงไปรายละเอียดของเนื้อเรื่องมากนัก เพราะไม่อยากสปอยเนื้อหาหลักและทำให้อรรถรสของเพื่อนๆ ที่จะไปหาซื้ออ่านกันเสียรสชาติไป รวมๆ ใครชอบแนวนี้ เป็นอีกเล่มที่แนะนำให้อ่านครับ
One day my friend Jaejun died…He was my best friend…He flied to the sky…forever…
Photo Credit by Unsplash
บทความดีๆ จากคุณ 85mm และเราหวังว่า “ถ้าวันหนึ่งนั้น…ฉันตาย” จะทำให้คุณสามารถค้นหาความหมายและความสุขในชีวิตได้ง่ายขึ้น ผ่านเรื่องราวแสนเศร้าแต่อบอุ่นเต็มไปด้วยกลิ่นอายคุณค่าแห่งชีวิต มิตรภาพของ เจจุน และ ยูมี ที่บอกเล่าผ่านหนังสือเล่มนี้ ความสุขและคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตอาจจะอยู่ใกล้ๆ และเล็กๆ มากกว่าที่คุณคิด