ญี่ปุ่นอีกหนึ่งอารยธรรมที่มีประวัติศาสตร์ดำรงและสืบทอดกันมาอย่างช้านาน ทั้งมีความหลากหลายและมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอยู่ทุกช่วงสมัย เป็นอีกหนึ่งในอารยธรรมที่มีจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของตนเองและเนื่องด้วยภูมิประเทศแบบเกาะทำให้ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่สืบทอดหมุนเวียนกันเองภายในและวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน ทั้งตำนาน ความเชื่อหรือเทพเจ้าต่างๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวเกาะแห่งนี้ทั้งสิ้น ญี่ปุ่นเองก็ผ่านช่วงเวลามาแล้วหลายยุคหลายสมัยที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งศาสนา วัฒนธรรมและการปกครอง ในวันนี้ Reeeed จะพานักอ่านไปรู้จักกับยุคสมัยสำคัญๆ ต่างๆ ของญี่ปุ่นที่มีอิทธิพลและการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้เป็นญี่ปุ่นอย่างทุกวันนี้
ยุคสมัยต่างๆ ของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ยุคโจมง
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ประมาณ 14,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึง 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยมีการสันนิฐานว่าอาจมีการอพยพเข้ามาทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชียมาอาศัยบนหมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วง 40000 ปีก่อนคริสต์กาลตอนที่ทวีปเอเชียยังเชื่อมต่อกันด้วยแผ่นน้ำแข็ง โดยเชื่อว่าใช้วิธีการดำรงชีวิตแบบหาของป่าและล่าสัตว์เป็นอาหารในช่วงแรก ตามหลักฐานและเครื่องมือที่พบสามารถระบุได้ว่าอยู่ในช่วงระยะเวลาของยุคหินกลางไปจนถึงยุคหินใหม่ นอกจากนี้นักวิชาการยังพบรูปปั้นและเคร่ืองปั้นดินเผาที่มาจากยุคดังกล่าวอีกด้วย จนกระทั่งมีหลักฐานว่าวัฒนธรรมโจมง โดยในยุคนี้มีจักรพรรดิจิมมูที่เป็นจักรพรรดิองค์สำคัญในยุคสมัยพระองค์มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเทพและตำนานหลายอย่างก็ล้วนเริ่มต้นในยุคนี้ อาทิ ยาตะการาสุ สุริยเทพีอามาเตระสุ
ยุคนาระ
ยุคนาระนั้นอยู่ในช่วงค.ศ. 710 – 794 หลังจากที่ชนเผ่าต่างๆ ในเกาะญี่ปุ่นมีการขยายตัวหลังยุคโจมงก็ได้มีการรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวและมีการสถาปนาราชวงศ์ของจักรพรรดิขึ้นมาปกครอง โดยในตอนนั้นได้มีการจัดตั้งเมืองหลวงเอาไว้ที่เฮโจเกียวซึ่งมีการวางรูปแบบเหมือนกับฉางอัน โดยในยุคนี้รัฐบาลกลางของจักรพรรดิถือว่าเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมดและจัดสันปันส่วนให้ขุนนาง ชาวนา ในการใช้พื้นที่เพราะปลูกทำมาหากิน แต่ต่อมาภายหลังทำให้เกิดปัญหาเรื่องขาดแคลนที่อยู่อาศัยและทำมาหากินทำให้ระบบดังกล่าวเป็นอันยกเลิกไป นอกจากนี้ยังเป็นยุคที่ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมเจริญรุ่งเรืองเป็นอยา่างมากเนืองด้วยได้รับการสนับสนุนและดูแลอย่างดี พุทธศาสนายังเติบโตจนมีนิกายขึ้นมาถึง 6 นิกายและมีการอัญเชิญบรรชิตมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริหาร
ยุคเฮอัน
กล่าวได้ว่าเป็นยุคทองของญี่ปุ่นหลังจากเกิดโรคระบาดและผู้คนอดยากข้าวยากหมากแพงทำให้ จักรพรรดิคัมมุ ตัดสินใจตามความเชื่อแบบคนโบราณว่าที่ตั้งเมืองไม่ดีและได้ย้ายเมืองหลวงไปยังนางาโอกะเคียว แต่ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดในราชสำนักจนทำให้จักรพรรดิคัมมุทรงเกรงกลัววิญญาณอาฆาตของพระอนุชาของพระองค์ จึงทรงย้ายราชสำนักมายังเฮอันเคียว ระบบการปกครองในยุคนี้นั้นได้รับอิทธิพลมาจากราชวงศ์ถังและมีแนวคิดตามแบบลัทธิข้งจื้อที่ให้ผู้ชายเป็นใหญ่ ทำให้ไม่มีผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในงานราชการบ้านเมือง ทั้งยังโดนกุบไลข่านผู้นำชาวมองโกลขณะนั้นหมายตาถึงขั้นส่งฑูตมาเกลี่ยกล่อมแต่ไม่เป็นผลสำเร็จทำให้เกิดส่งครามขึ้นในภายหลังแต่เพราะมีพายุไต่ฝุ่งรุนแรงทำให้ทัพเรือมองโกลต้องแตกพ่ายไป ปลายยุคนี้ได้เกิด สงครามเกนโค (Genkō War) สาเหตุมาจากตระกูลโฮโจที่เรืองอำนาจและตั้งรัฐบาลควบคุมจักรพรรดิทำให้จักรพรรดิโกะไดโกะวางแผนเพื่อต่อต้าน แม้ล้มเหลวในช่วงแรกแต่ก็กลับมายึดอำนาขของจักรพรรดิคืนได้ในที่สุด
ยุคคะมะคุระ
ยุคคะมะคุระ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1185 ถึงปี 1333 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการก่อตั้งระบบการปกครองของซามูไร ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคะมะคุระ ซึ่งเป็นการลุกขึ้นมาต้านการปกครองของราชวงศ์และจัดตั้งรัฐบาลโดยกองทัพ ในยุคคะมะคุระญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานจากกองทัพมองโกลภายใต้การนำของ กุบไลข่าน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ เกี่ยวกับศึกสงครามและพัฒนาการใช้กฎหมาย ซึ่งทำให้กฎหมายของญี่ปุ่นเกิดขึ้นครั้งแรกในยุคนี้ ในช่วงนี้ยังมีการสร้างพระราชวังและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ที่เป็นเอกลักษณ์ของยุคนี้ด้วย เช่น วัดคะมะคุระ และพระราชวังคะมะคุระ ยุคคะมะคุระเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มีผลกระทบในด้านต่างๆ ต่อไปในอดีตและปัจจุบัน
ยุคมุโรมะจิ
ยุคมุโรมะจิเป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นเผชิญกับการแตกแยกและความขัดแย้งภายในรางวงศ์แบ่งเป็นฝ่ายเหนือและใต้ อีกทั้งตระกูลอะชิคางะได้ลุกขขึ้นมาต่อร้านกลุ่มโฮโจเก่ากับจักรพรรดิและจัดตั้งรัฐบาลโชกุนขึ้นอีกครั้งที่เกียวโตทั้งยังใช้ระบบดังกล่าวปกครองญี่ปุ่นเป็นระยะเวลากว่า 200 ปี เป็นยุคสมัยที่ขุนศ฿กมีอำนาจเหนือขุนนางอย่างแท้จริง แต่ด้วยผู้ปปกครองส่วนใหญ่นั้นเป็นนักรบคนสำคัญจึงทำให้การปกครองให้มีเสถียรภาพเป็นไปได้ยาก ขุนศึกตามหัวเมืองต่างๆ จึงเริ่มทำสงครามแย่งชิงอำนาจรบพุ่งกกันตลอดเวลาจนทั้งประเทศญี่ปุ่นตกเข้าสู่ยุคสงคราม และในยุคนี้ยังมีตำแหน่งผู้ปกครองมลฑลอย่าง ไดเมียว เกิดขึ้นเพราะการติดพันสงครามฝ่ายเหนือใต้ทำให้ต้องมีการกระจายอำนาจเพื่อบริหาร ในช่วงนี้มีการพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรมอย่างมากมาย อาทิ การแต่งกิ่งไม้ในสวน รวมถึงการพัฒนาการทำดนตรีและการแสดงละครโนะ ในช่วงนี้ยังมีปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเติม เช่น การกำหนดจังหวัดและตำบลในการปกครอง และการตั้งตัวของศาสนาคริสต์ที่ถูกนำเข้ามาโดยชาวฝั่งเศสก็เกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย ยุคมุโรมะจิเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
และทั้งหมดคือยุคสมัยบางส่วนของญี่ปุ่นที่เรานำมาให้นักอ่านทุกท่านรู้จักกัน ญี่ปุ่นนั้นมีอารยธรรมที่ยาวนานมาก มียุคสมัยยิบย่อยอีกมากมายที่ถ้าให้อธิบายทั้งหมด สำหรับนักอ่านคนไหนที่สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นทาง Reeeed ก็มีหนังสือ ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์แห่งอำนาจ จากเทพเจ้าถึงซามูไร โดยคุณกรกิจ ดิษฐาน จากสำนักพิมพ์ยิปซีมานำเสนอกันค่ะ นี่คือหนังสือที่ได้รวบรวมยุคสมัยต่างๆ ของญี่ปุ่นไว้อย่างละเอียดสำหรับใครที่ชื่นชอบรับรองว่าเนื้อหาถูกใจแน่นอน สามารถติดตามบทความได้ที่ article.reeeed นะคะ เรามีบทความใหม่อัพเดทนักอ่านทุกท่านเสมอ และสำหรับใครที่มองหาร้านหนังสือออนไลน์ก็อย่าลืมแวะมาที่ Reeeed.com นะคะ เรามีหนังสือมากมายหลากหลายรอนักอ่านทุกท่านอยู่ เลือกจะ Read เลือก Reeeed นะคะ
ประวัติศาสตร์ ยังเป็นอนุสรณ์ของความไม่จีรัง อำนาจได้มาก็เสื่อมไป อำนาจที่เสื่อมไปก็อาจกลับมาได้อีก เทพเจ้าอาจสร้างมนุษย์ แต่เทพเจ้าก็อาจถูกมนุษย์โค่นล้มได้ นักรบอาจจับดาบมาทั้งชีวิตเพื่อแสวงหาอำนาจและความมั่นคง เพียงเพื่อจะวางดาบลง และปกครองโดยสันติและธรรมะ
ซื้อหนังสือ ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์แห่งอำนาจ จากเทพเจ้าถึงซามูไร