โรคไต (Kidney disease) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อไตของร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่หรือบางส่วนของไตเสื่อมสภาพลง โรคไตสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท รวมถึงโรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease) และโรคไตเฉียบพลัน (Acute kidney injury) ที่พบบ่อยที่สุดในประชากรทั่วไป โรคไตนั้นกล่าวได้ว่าเป็นภัยเงียบในปัจจุบันเพราะมีผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่คนส่วนใหญ่นั้นยังไม่ตระหนักถึงโรคนี้อย่างจริงจังมากนัก นั้นเพราะสาเหตุของโรคไตนั้นเกิดการสาเหตุเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทานอาหารรสจัด ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักละเลยมองข้ามไป ทำให้สาเหตุของโรคค่อยๆ สะสมโดยไม่รู้ตัวกัน
ประเภทของโรคไต
โรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease)
เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อไตเสื่อมสภาพลงเป็นเวลานาน โรคนี้มักเกิดจากการเสื่อมสภาพของไตที่ไม่สามารถกลับมาทำงานในระดับปกติได้ สาเหตุสำคัญของโรคไตเรื้อรังได้แก่โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, การติดเชื้อไต, การใช้ยาบางชนิด และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย โรคไตเรื้อรังจะเกิดความผิดปกติในการกรองของไตและสร้างสารของตัวเองไม่ได้ เมื่อโรคเป็นระยะสุดท้าย ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่อยากลำบากในขั้นสุดท้ายเช่นการได้รับการบำบัดด้วยเครื่องฟอกไต (dialysis) หรือการผ่าตัดไตเทียม (kidney transplant)
โรคไตเฉียบพลัน (Acute kidney injury)
สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อทางเลือด, ภาวะติดเชื้อรุนแรง, การใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อไต, การได้รับสารพิษหรือสารเคมีที่เข้มข้นเกินไป, การได้รับการบาดเจ็บทางไต หรือการมีปัญหาทางหัวใจที่ทำให้ไตได้รับเลือดไม่เพียงพอ อาการของโรคไตเฉียบพลันอาจมีถึงอาการหน้ามืดเมื่อลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำมูก อาเจียน หรือปัสสาวะน้อยลง ในบางกรณีรุนแรงอาจเกิดภาวะความผิดปกติในร่างกายรวมถึงสะสมของของเสียในร่างกาย เช่น อุจจาระ วิธีการตรวจหาโรคนั้นอาจมีการใช้เครื่องมือและการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจสารเคมีในเลือด ตรวจการกรองของไต และภาพถ่ายทางรังสี เพื่อวินิจฉัยและประเมินระดับความรุนแรงของโรคไตเฉียบพลัน
อาการของโรคไต
อาการของโรคไตอาจแตกต่างกันไปตามประเภทและระยะของผู้ป่วย โดยทั่วไปแล้วอาการของโรคไตมีลักษณะดังนี้
โรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease)
1.อาการเบื้องต้นอาจไม่มีหรือไม่มีอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น
2.ความเมื่อยล้าทั่วไป
3.น้ำหนักลดลงโดยไม่ได้กำหนดเป้าหมาย
4.ความเจ็บแสบหรือบวมบริเวณแขนและขา
5.อาเจียนหรือคลื่นไส้
6.อาการทางเดินปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อยมากหรือน้อยลง, ปัสสาวะมีเลือดหรือเนื้อปนหนอง
โรคไตเฉียบพลัน (Acute kidney injury)
1.ปัสสาวะลดลง หรือ ไม่สามารถปัสสาวะได้เลย
2.อาการคลื่นไส้และอาเจียน
3.น้ำหนักลดลง
4.อ่อนเพลียและความเมื่อยล้า
5.ปัญหาในการเข้านอนหรือการนอนหลับ
6.ตัวอ่อนไหวหรือใจสั่น
การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับโรคไตเพื่อรักษาสุขภาพไตและลดความเสี่ยงของการเกิดปฏิกิริยาร้ายแรงของโรคไตเรื้อรัง
1.รับประทานอาหารที่เหมาะสม: ควรรับประทานอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูงในปริมาณที่เหมาะสมและลดการบริโภคโซเดียม (เกลือ) เพื่อควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ควรลดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณโปแตสเซียมสูง เช่น อาหารอุดมด้วยเกลือสูง เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
2.ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอช่วยในการละลายสารบางชนิดและสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามความต้องการของร่างกาย แต่หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง
3.ออกกำลังกาย: ออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มโปรแกรมออกกำลังกายเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้ป่วยโรคไต
4.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้โรคไตเรื้อรังเกิดขึ้นหรือรุนแรงได้มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดการใช้งานของไตให้น้อยลง
5.ตรวจสุขภาพประจำ : ควรปฏิบัติตามนัดหมายการตรวจสุขภาพประจำ เช่น ตรวจระดับความดันโลหิต ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และตรวจการทำงานของไต เพื่อตรวจสอบสภาพของไตและติดตามความเสี่ยงหรือการเปลี่ยนแปลง
6.รักษาโรคประจำตัว: หากมีโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง ควรดูแลรักษาโรคประจำตัวอย่างเอาจริงจัง เพราะโรคเหล่านี้อาจส่งผลต่อสภาพของไตได้
7.ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: คำแนะนำและการรักษาที่ได้รับจากแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลโรคไต ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาที่แพทย์สั่งสม่ำเสมอและติดตามการนัดหมายตรวจสุขภาพ
8.ลดความเครียด: ความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพไตได้ ควรใช้เทคนิคการบริหารจัดการความเครียดเพื่อลดปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อไต
แนะนำหนังสือข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคไต
หนังสือ 150 คำถามโรคไต
ตอบ 150 ข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไต สาเหตุและอาการต่าง ๆ ความเหมือนและความแตกต่างจากโรคอื่น ๆ วิธีสังเกตอาการและการรักษา การใช้ยา การฟอกไต การผ่าตัด วิธีดูแลตนเอง อาหารการกิน และการออกกำลังกาย ” เมื่อการทำงานของไตแย่ลง จะส่งผลใดต่อร่างกาย, โรคไตมีทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง ต่างกันอย่างไร, ถ้ารักษาโรคไตเรื้อรังตั้งแต่เนิ่น ๆ จะหลีกเลี่ยงการฟอกเลือดได้ไหม, ถ้าติดโควิด อาการจะแย่ลงไหม, การฟอกไตมีกี่ประเภท, ฯลฯ ” อย่าประมาท! เริ่มป้องกันตั้งแต่วันนี้ เพราะโรคไตคือภัยใกล้ตัว และนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นได้ง่ายกว่าที่คิด
ซื้อหนังสือ 150 คำถามโรคไต(ebook)
หนังสือ หายเหนื่อยแน่ แค่นวดไตวันละ 1 นาที
หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เข้าใจกลไกการทำงานของไตที่สัมพันธ์กับความเหนื่อยล้า โดยเชื่อมโยงให้เห็นว่าไตเกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนโลหิต ระบบการย่อยอาหาร ระบบการขับถ่ายของเสียอย่างไร ทำไมเมื่อไตทำงานบกพร่อง ร่างกายจึงรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และแก้อย่างไรก็แก้ไม่หาย จากนั้นผู้เขียนจึงได้คัดเทคนิคการนวดกดจุดที่เกี่ยวกับไตอย่างง่าย ๆ แต่คลายความอ่อนล้าได้ชะงัดมาแนะนำ เรียกว่าแม้ไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์แผนตะวันออกก็ปฏิบัติตามได้อย่างปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น ในท้ายเล่มก็ยังแนะแนวทางปรับพฤติกรรมเพื่อถนอมไตไม่ให้ล้าและรักษาไตให้แข็งแรงเคียงคู่กับร่างกายอย่างยั่งยืนด้วย
ซื้อหนังสือ หายเหนื่อยแน่ แค่นวดไตวันละ 1 นาที(ebook)