เชื่อว่านักอ่านหลายๆ ท่านน่าจะเคยได้ยินชื่อหนังสือ เด็กชายในชุดนอนลายทาง กันมาบ้าง แม้กระทั่งเคยอ่านและสัมผัสถึงเรื่องราวภายในหนังสือเล่มดังกล่าวหรืออาจจะเคยชมในรูปแบบภาพยนตร์ที่เสียงตอบรับดีเยี่ยมไม่แพ้กัน หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของนักเขียน John Boyne ซึ้งในวันนี้เราได้หยิบหนังสืออีกเล่มของนักเขียนท่านนี้ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ พ่อกับผมและบางสิ่งที่หายไปในสงคราม ที่ต้องบอกว่าความหนักของเนื้อหานั้นไม่ได้น้อยไปกว่าอีก เด็กชายในชุดนอนลายทาง เลย เนื้อหาภายในหนังสือยังเต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าเจ็บปวดจากสงครามที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนมากมาย รีวิวเล่มนี้โดยคุณ 85mm ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวความน่าสนใจและความน่าเศร้าไม่แพ้กันของผลงานเล่มนี้
รีวิว พ่อกับผมและบางสิ่งที่หายไปในสงคราม อีกหนึ่งผลงานของ John Boyne
หลายคนพูดถึงงานของ John Boyne กันเยอะมากๆ กับเรื่อง The Boy in the Striped Pyjamas เด็กชายในชุดนอนลายทาง ซึ่งส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเรื่องที่จบได้จุกและหน่วงอันดับต้นๆ เลยทีเดียว หลายคนที่ไม่รู้เนื้อเรื่องมาก่อนหลงอ่านไปก็คือโอเคตุย
วันนี้ผมมีงานของ จอห์น บอยน์ อีกเล่มมาแนะนำครับ พ่อกับผมและบางสิ่งที่หายไปในสงคราม ซึ่งเรียกน้ำตาได้ไม่แพ้กัน Base ของเรื่องยังอยู่ที่ความสูญเสียที่เกิดมาจากสงคราม ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กตัวเล็กๆ อย่างแอลฟี่มันช่างยิ่งใหญ่มหาศาลเหลือเกิน
แอลฟีเด็กน้อยที่สูญเสียชีวิตในวัยเด็ก ต้องเข้ามารับผิดชอบเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่ห้าขวบ ฝ่ายพ่อที่ออกไปรบก็ต้องเจอกับสงครามและความตาย แต่แล้ววันหนึ่งความหวังในใจเขาก็พลันสว่างไสวขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเขาได้เจอเบาะแสของพ่อโดยบังเอิญจากลูกค้าที่มาให้เขาขัดรองเท้า
เขาตัดสินใจไปตามเบาะแสของพ่อที่ตนได้มา เพียงเพื่อได้พบว่า พ่อของเขานั้นอยู่ที่โรงพยาบาลและป่วยเป็นโรค Shell Shock ซึ่งเป็นอาการทางจิตประสาทของทหารที่ผ่านสงครามครั้งเลวร้ายมาทำให้พวกเขาไม่สามารถดำรงชีวิตในแบบเดิมได้
ชื่อเรื่องของ พ่อกับผมและบางสิ่งที่หายไปในสงคราม ภาษาอังกฤษชื่อว่า “Stay Where You Are and Then Leave” ประโยคนี้เป็นวลีสำคัญในเรื่องที่พ่อของแอลฟี่ได้ยินซ้ำๆ ในสงคราม ด้วยเป็นทหารชั้นผู้น้อยต้องทำตามคำสั่ง จะได้ยินวลีนี้เป็นระยะๆ หยุดกับที่และเคลื่อนที่ไปข้างหน้า มีฉากที่น่าตกใจคือแอลฟี่ที่ตามหาพ่อจนเจอ กับสภาพจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แอลฟี่บอกให้พ่อรออยู่ตรงชานชาลารถไฟเพื่อจะหาของกินรองท้องให้ พ่อของแอลฟี่นั่งอยู่ตรงนั้น สักพักได้ยินเสียงแว่วมาจากนายสถานีที่ควบการเดินรถไฟ และประโยค “Stay Where You Are and Then Leave” แว่วเข้ามา ทำให้พ่อแอลฟี่ปฏิบัติตามคำสั่งคือลุกและเดินออกไปอย่างไร้จุดหมาย และเมื่อแอลฟี่กลับมาก็ไม่เจอพ่อแล้ว
“ความสุขวัยเด็กวัดได้จากเสียง รอยยิ้ม และแววตา
ก่อนที่พลังมืดของเหตุผล จะเข้ามาครอบงำ”
– John Betjeman
เป็นหนังสืออีกเรื่องที่สะท้อนความเจ็บปวดของสงครามได้อย่างดี บางทีเรามักมองข้ามไม่เคยคิดว่าเด็กตัวเล็กๆ จะรู้สึกอย่างไร John Boyne ได้พาเราไปฟังเสียงเล็กๆ เหล่านั้น เป็นอีกเล่มที่แนะนำเลยครับ
และนี้คือรีวิว พ่อกับผมและบางสิ่งที่หายไปในสงคราม หนังสืออีกเล่มจากนักเขียนที่ยังคงเอกลักษณ์สะท้อนถึงความเศร้าและเจ็บปวดของสงคราม ไม่ว่าคุณจะอ่านหนังสือเล่มไหนมาก่อนแต่ทุกเล่มต่างชี้ให้เห็นว่าสงครามนั้นนำพามาแต่ความเศร้าและสูญเสียมาให้ทุกคน โลกที่เต็มไปด้วยฝนกระสุนและการเข่นฆ่าไม่มีที่ว่างให้ความสุขอยู่อย่างแน่นอน หวังว่านักอ่านทุกท่านจะชอบหนังสือเล่มนี้กันนะคะ สุดท้ายนี้ขอบคุณเพจ 85mm สำหรับรีวิวหนังสือดีๆ อีกเช่นเคยค่ะ
อย่าลืมติดตามบทความแนะนำ รีวิวหนังสือหรือนักเขียนที่น่าสนใจจากทาง article.reeeed ได้ใหม่และขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่แวะเวียนกันเข้ามาด้วยนะคะ