ฌ็อง ปอล ซาทร์ (Jean Paul Sartre) นักเขียนเชิงปรัชญาผู้เชื่อในอิสระและเสรีภาพของมนุษย์

ฌ็อง ปอล ซาทร์ (Jean Paul Sartre) นักปรัชญาชื่อดังและนักเขียนชาวฝรั่งเศส ท่ามกลางศตวรรษที่ 20 เขาเป็นหนึ่งในนักปรัชญาสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในแนวคิดอัตถิภาวนิยมหรือทฤษฎีที่ว่าทุกคนนั้นอิสระและรับผิดชอบในการกระทำของตน และเขียนรวมถึงหลายงานที่มีผลกระทบต่อการเสริมสร้างแนวคิดด้านนี้ ในวันนี้ Reeeed จะพานักอ่านทุกคนไปรู้จักประวัติและผลงานบางส่วนของนักเขียนท่านนี้กันค่ะ

ประวัติ ฌ็อง ปอล ซาทร์ (Jean Paul Sartre)

ฌ็อง ปอล ซาทร์ (Jean Paul Sartre) เป็นนักปรัชญาชื่อดังและนักเขียนชาวฝรั่งเศสที่มีผลกระทบมากในศตวรรษที่ 20 ซึ่งเขาถือว่าเป็นหนึ่งในผู้สร้างแนวคิดทางปรัชญาเอ็กซิสเทนเชียลลิสม์ (Existentialism) ซึ่งเน้นความเสรีภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ โดยเฉพาะความเป็นอิสระในการเลือกตัดสินใจและการแต่งชีวิตของเราเอง

เขาเกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 1905 ในเมือง Paris และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1980 ในเมืองเดียวกัน ในช่วงเวลาตั้งแต่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เขามีผลงานที่สำคัญอย่าง “L’Être et le Néant” (ความเป็นอยู่และความไม่มี) ซึ่งเป็นผลงานปรัชญาที่เน้นการตีความความเป็นอยู่และความเป็นไปได้ของมนุษย์ รวมถึง “La Nausée” (ความเซื่องซึม) ที่เป็นเรื่องสั้นและ “Les Chemins de la Liberté” (ถนนสู่เสรีภาพ) ซีรีส์นิยายที่ประกอบไปด้วยหนังสือสามเล่ม

นอกจากนั้นเขายังเป็นนักเขียนด้วยความชำนาญทางวรรณคดี ผลงานทางวรรณคดีที่มีความรู้จักกันดีของเขาได้แก่ “Les Mains Sales” (มือสกปรก), “Les Jeux sont Faits” (เกมส์สิ้นสุดแล้ว), และ “Huis Clos” (ประตูถูกปิด) ซึ่งเป็นงานที่นับถือกันว่าสะท้อนแนวคิดทางปรัชญาของเขาอย่างชัดเจนนอกจากงานเขียน ซาร์ตร์ยังมีการเข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมและการเมืองอย่างหนาแน่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเคยเข้าร่วมกิจกรรมการต่อสู้และกิจกรรมการต้านทานต่อเผด็จการ นอกจากนี้เขายังมีบทบาทในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามเวียตนามและการต่อต้านการบุกรุกของกองทัพสหรัฐในยุโรป

Jean-Paul Sartre เป็นนักปรัชญาที่มีผลกระทบอย่างมากในวงกว้าง ผลงานและแนวคิดของเขาได้กระทบถึงปรัชญา วรรณคดี ศิลปะ และการเมือง และเขายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักปรัชญาและศิลปินต่อมาอย่างมากในปีต่อมา

ผลงาน ฌ็อง ปอล ซาทร์ (Jean Paul Sartre)

Les Chemins de la Liberté

เป็นซีรีส์นวนิยายที่ประกอบด้วยสามเล่ม คือ”L’Âge de raison (วัยรุ่น), Le Sursis (การพักการชะลอ), และ La Mort dans l’âme (ความตายในจิตวิญญาณ) ซึ่งเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่ต้องเผชิญกับการตัดสินใจและการค้นหาความเป็นตัวของตนเองในสภาวะทางการเมืองและสงครามโลกครั้งที่สอง ซีรีส์นี้ถือเป็นผลงานที่สำคัญของ Sartre ที่สะท้อนแนวคิดปรัชญาเอ็กซิสเทนเชียลลิสม์ (Existentialism) โดยเน้นความเสรีภาพและความรับผิดชอบในการตัดสินใจของมนุษย์ นอกจากนี้ยังเน้นถึงการกระทำและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเรา โดยพล็อตและตัวละครในซีรีส์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนความซับซ้อนและความท้าทายในการเผชิญหน้ากับสังคมและเหตุการณ์ปัจจุบัน ผู้อ่านจะได้พบกับลักษณะเด่นของ Sartre ในการใช้ภาษาที่เป็นรูปแบบที่ซับซ้อน โดยใช้คำพูดและความคิดที่ลึกซึ้ง เขียนด้วยสไตล์ที่เต็มไปด้วยความสันติสุขและความเข้มข้น

Huis Clos

เป็นนวนิยายเล็กที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1944 ซึ่งเป็นผลงานที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากของ Jean-Paul Sartre นวนิยายนี้มีลักษณะเฉพาะที่สร้างความตื่นเต้นและเร้าใจในผู้อ่านด้วยฉากหนึ่งเดียวที่เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเดียวกันระหว่างบุคคลสามคนที่ต้องติดอยู่ด้วยกันตลอดกาล เรื่องราวของ “Huis Clos” เน้นที่การวิจารณ์สังคมและมนุษย์เอง ภาพลักษณ์ของความนรกในซีนห้องที่ปิดกั้นและความทรมานที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครทำให้ผู้อ่านรู้สึกตึงเครียดและกดดัน ตัวละครในเรื่องมีความซับซ้อนและความลับซ่อนอยู่ที่แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของมนุษย์และความผิดพลาดของมนุษย์ที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงและความเป็นอยู่ของตนเอง หนึ่งในคำพูดที่มีชื่อเสียงในนวนิยายนี้คือ “L’enfer, c’est les autres” (นรกคือคนอื่น) ซึ่งสะท้อนถึงความเกิดความทุกข์ทรมานของบุคคลในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและความเคลื่อนไหวของความรู้สึกและความคิดในภายใน

Les Mains Sales

เป็นนวนิยายที่เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1948 และเป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญของ Jean-Paul Sartre นวนิยายนี้มุ่งเน้นการวิจารณ์การดำเนินการทางการเมืองและสังคมในสงครามโลกครั้งที่สอง และสอดคล้องกับแนวคิดเอ็กซิสเทนเชียลลิสม์ (Existentialism) ของ Sartre เรื่องราวในนวนิยายเกี่ยวกับกลุ่มผู้นำการปฏิวัติที่ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ซึ่งต้องเลือกในการเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่การตัดสินใจเหล่านี้มักเกิดความล้มเหลว และต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานที่เกิดจากการเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อความเปลี่ยนแปลงในโลก Sartre สร้างตัวละครที่ซับซ้อนและน่าสนใจภายในนวนิยาย เขาวิเคราะห์และสะท้อนถึงความฝันและความเคลื่อนไหวของตัวละคร นอกจากนี้ เขาเน้นในการพูดคุยและการโต้วาทีภายในฉากที่มีความตื่นเต้นและความดันอยู่เสมอ “Les Mains Sales” เป็นนวนิยายที่เต็มไปด้วยการถามคำถามที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางการเมืองและสังคม

La Nausée

เป็นนวนิยายที่เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1938 และเป็นผลงานแรกที่สำคัญและได้รับความนิยมของ Jean-Paul Sartre นวนิยายนี้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของความอึดอัดและความอึนเคราะห์ในความเป็นอยู่ของมนุษย์ เนื้อเรื่องของนวนิยายเกี่ยวกับนักอนุสาวรีย์ชื่อ ออนเร็สต์ เรื่องราวถูกเล่าผ่านทางมุมมองของเขาที่รู้สึกว่าโลกและการเป็นอยู่มีความล้มเหลวและเป็นความคลื่นใจ นวนิยายชวนให้ผู้อ่านสัมผัสถึงความเจ็บปวดและความสังเกตเกิดขึ้นในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นธรรมชาติและสังคม Sartre ใช้ภาษาอย่างมีเท่ห์ในการเล่าเรื่องราว และเน้นการใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยความเป็นจริงและรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสะท้อนความซับซ้อนและความว่างเปล่าในความเป็นอยู่ “La Nausée” เป็นนวนิยายที่กระตุ้นให้ผู้อ่านคิดถึงคำถามที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความหมายและความว่างเปล่าของชีวิต นวนิยายนี้เป็นการสะท้อนถึงความล้มเหลวและความอัปยศในการมองเห็นโลกและตนเอง

และนี้คือประวัติและผลงานบางส่วนของ ฌ็อง ปอล ซาทร์ (Jean Paul Sartre) ที่เรานำมาฝากกันค่ะ สุดท้ายนี้หากนักอ่านท่านไหนที่สนใจอยากรู้จักนักเขียนท่านอื่นๆ และบทความเกี่ยวกับหนังสือที่ดีๆ น่อย่าแวะเข้ามาใหม่ได้ที่ aricle.eeeed นะคะ เรามีบทความดีๆ มาอัพเดทอยู่เสมอให้นักอ่านทุกท่านเข้าใจโลกของหนังสือให้มากขึ้น เลือกจะ Read เลือก Reeeed ค่ะ