แม่มดเป็นตัวละครที่ปรากฏในเทพนิยายในตำนานและความเชื่อต่างๆ มีหลายแบบและความหมายที่แตกต่างกันไปในวัฒนธรรมและสื่อต่างๆ แต่ล้วนแล้วแม่มดมักถูกพิจารณาเป็นผู้มีพลังเวทมนตร์ มักมีความสัมพันธ์กับธรรมชาติและภูมิประเทศ แม่มดบางครั้งอาจถูกวิจารณ์หรือจารึกให้เป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย ในขณะที่ในนิยายและภาพยนตร์บางเรื่องแม่มดก็อาจถูกพบในบทบาทของตัวละครหลักหรือตัวละครที่สนับสนุน ซึ่งการวาดแม่มดในลักษณะนั้นอาจแตกต่างกันไปอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น แม่มดในนิยายแฟนตาซีอาจมีอาวุธพลังเวทมนตร์ ในขณะที่แม่มดในนิยายสำหรับเด็กก็อาจเป็นตัวละครที่น่ารักและเป็นมิตร
ความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับแม่มด
ความเชื่อเกี่ยวกับแม่มด (witch) มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละสังคม นี่คือบางความเชื่อที่พบได้
- เวทมนตร์และพลังเวท: แม่มดถือเป็นผู้มีพลังเวทมนตร์และความสามารถพิเศษในการใช้เวทมนตร์ พวกเธอเชื่อว่าสามารถใช้พลังของธรรมชาติ เช่น การใช้สมองและพลังงานทางจิตในการสร้างสิ่งขึ้น หรือใช้สิ่งของและสัตว์เพื่อเรียกขึ้นอย่างเวทมนตร์
- การต่อสู้กับความชั่วร้าย: ในบางสื่อแลตำนาน แม่มดถูกพอจะเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย แม้ว่าจะมีแม่มดที่ทำความดีเช่นกัน ความเชื่อที่ผิดในช่วงกลางศตวรรษที่ 15-17 ในยุโรปได้ร่วมสร้างภาพลักษณ์ของแม่มดเป็นผู้นำเข้าสู่ภาพลักษณ์ของแม่มดที่มีความชั่วร้าย
- สร้างความสมดุลและการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ: บางคนเชื่อว่าแม่มดเป็นตัวแทนของความสมดุลในธรรมชาติ และสามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติและภูมิประเทศได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งพวกเธอสามารถใช้พลังของธรรมชาติเพื่อดำรงต่อสู้กับความชั่วร้ายและปกป้องคนอื่นได้
- รักษาและดูแลทางการแพทย์: ในบางวัฒนธรรมและความเชื่อเก่าๆ แม่มดถูกเชื่อว่ามีความรู้เรื่องการใช้สมุนไพรและวิธีการแพทย์ที่เฉพาะเจาะจง พวกเธอสามารถใช้ความรู้และพลังของพวกเธอในการรักษาโรคและเยียวยาผู้ป่วย
- การปกป้องและเป็นนายหน้าในการคาดหวัง: ในบางกระแสความเชื่อ แม่มดเป็นตัวแทนของความปกป้องและการคาดหวัง พวกเธอสามารถใช้พลังของพวกเธอเพื่อปกป้องคนอื่น รวมถึงการให้คำปรึกษาและการช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ
- พิธีและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทพธิดา: บางคนเชื่อว่าแม่มดเป็นผู้ตัดสินในพิธีและการเชื่อมต่อกับเทพธิดาหรือวิธีการทางศาสนา พวกเธอมีบทบาทในการสร้างสรรค์และแสดงความเคารพต่อเทพธิดา
ยุคล่าแม่มด (Witch-hunts)
ยุคล่าแม่มด (Witch-hunts) เกิดขึ้นในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 15-17 และมีความเป็นที่รู้จักเป็นที่แพร่หลายในยุคที่ 16 และ 17 ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการจัดตั้งเจ้าหน้าที่ตามล่าแม่มดเหล่านี้ เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ถูกลงโทษและถูกสังหารในยุคนั้น ขณะนั้น เชื่อว่ามีแม่มดซึ่งได้รับพลังเวทมนตร์จากปีศาจ และใช้พลังเหล่านี้เพื่อกระทำความชั่วร้าย สะสมข้อมูลเกี่ยวกับการล่าแม่มดจากหลายแห่งต่างกันไป แต่ข้อมูลที่มีเอกลักษณ์เป็นสิ่งที่เป็นจริงที่สุด เช่น การสังหารนั้นมีผลร้ายอย่างมากต่อผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ซึ่งหญิงผู้ที่ถูกกล่าวหาจะถูกข่มขู่ ทารุณกรรม และถูกสังหารโดยวิญญาณชั่วร้าย ผู้ชายที่สนับสนุนหรืออยู่ใกล้กับผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาก็อาจถูกกล่าวหาเช่นกัน
ในยุโรปเฉพาะ ประเทศเยอรมนี และฝรั่งเศส มีการจัดตั้งที่ว่า คณะสอบสวน Inquisition เพื่อต่อต้านและล่าจารวัตรสะอิ้ง มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ที่ว่าจัดตั้ง คณะสอบสวน (Inquisition) เพื่อต่อต้านและล่าแม่มด มีเป้าหมายที่หลากหลายขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะมีวัตถุประสงค์ในการกำจัดแม่มดและผู้มีความเชื่อเกี่ยวกับเวทมนตร์เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นรองของศาสนาที่มีอิทธิพลในสังคมนั้น อย่างเช่น การรักษาความยั่งยืนของศาสนาคริสต์ในยุโรปซึ่งถูกพบว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดมักเชื่อในเทพเจ้าพุทธและทำพิธีที่ขัดกับศาสนาคริสต์
คณะสอบสวนเพื่อล่าแม่มดมักใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมในการสืบสวนและจับกุมผู้ถูกกล่าวหา ทั้งการใช้ทนายความที่อยู่ในฐานะผู้ตรวจสอบความบริสุทธิ์ การใช้ความผิดศาสนาเป็นหลักฐาน และการใช้ทรัพย์สินและการทรมานเพื่อบังคับให้ผู้ถูกกล่าวหาสารภาพของตนเอง ผลลัพธ์ของยุคล่าแม่มดทำให้มีผู้ที่ถูกสังหารจำนวนมากโดยมีประมาณ 40,000-60,000 คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดและถูกสังหารในยุโรปตลอด
ความเชื่อเรื่อง แม่มด ในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน ความเชื่อเกี่ยวกับแม่มดมีความหลากหลายและขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและความเชื่อของแต่ละสังคม แม่มดบางครั้งถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังผู้หญิงและเสรีภาพ อาจถูกใช้ในทางศาสนาเช่นพากย์โดยพุทธศาสนาเพื่อแสดงถึงคุณค่าและความเป็นมาของผู้หญิงในสังคม ในวงกว้างขึ้น แม่มดเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมในวรรณกรรม ภาพยนตร์ และศิลปะ มีผู้คนที่หลงใหลในวิถีชีวิตแม่มด และมองว่าเป็นแบบอย่างในการทำงานด้านเวทมนตร์ สมาชิกในชุมชนทางเวทมนตร์และแห่งความเชื่อทางผิวเผินก็อาจรับบทบาทของแม่มดในพิธีและการปฏิบัติตามแบบอย่างเก่าๆ
แม้ว่าความเชื่อเกี่ยวกับแม่มดในปัจจุบันจะไม่มีความเจาะจงเหมือนในอดีต แต่ความเคลื่อนไหวทางเวทมนตร์และความสนใจในเรื่องเวทมนตร์ยังคงอยู่ อาจมีการจัดงานเปิดศิลปะ อบรม หรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์และแม่มดในชุมชนทางเวทมนตร์หรือกลุ่มที่สนใจ สรุปแล้ว ความเชื่อเรื่องแม่มดในปัจจุบันมีความหลากหลายและขึ้นอยู่กับแต่ละสังคมและประเพณี
สุดท้ายนี้ใครอย่ารู้จักแม่มดให้มากขึ้นเราก็มีหนังสือแนะนำอย่าง “แม่มด : ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท (Witchcraft History) จากสำนักพิมพ์ยิปซีมาแนะนำกันค่ะ หนังสือเล่มนี้รวมทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับแม่มดเอาไว้ให้คุณอย่างครบถ้วนให้รู้จักพวกเธอได้มากขึ้นผ่านมุมมองต่างๆ สามารถติดตามบทความใหม่ๆ ได้ที่ Reeeed นะคะ เรามีรีวิว แนะนำหนังสือ นักเขียน ไอดอลคนดังมากมายอัพเดทอยู่เสมอ หรือใครที่กำลังมองหาร้านหนังสือออนไลน์สามารถแวะเข้ามาเลือกหนังสือได้ที่ Reeeed.com เรามีหนังสือมากมายหลากหลายรอนักอ่านทุกคนอยู่นะคะ เลือกจะ Read เลือก Reeeed ค่ะ
“แม่มด” เรียนรู้จากธรรมชาติ พวกเขาเชื่อว่าความเข้าใจธรรมชาติเป็นความสูงส่งของมนุษย์ ขณะมนุษย์เองก็กอปรส่วนอยู่ในธรรมชาติหรือในองค์รวม “แม่มด” มีคติที่ว่ามนุษย์มิได้เป็นเจ้าของโลก แต่เป็นส่วนหนึ่งของโลก ชาวไสยลัทธิเข้าใจดีว่า เมื่อมนุษย์เอาประโยชน์จากธรรมชาติ จักต้องคืนกลับไปให้ธรรมชาติ เพื่อดำรงไว้ซึ่งดุลยภาพ พวกเขาใช้ไสยเวท ในฐานะเป็นศาสนาที่แท้ของธรรมชาติและเทพเจ้า “แม่มด : ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท (Witchcraft History)” เล่มนี้ เป็นหนังสือเชิงประวัติศาสตร์สังคม นำคุณไปรู้จักกับผู้ใช้ความรู้ทางไสยเวทที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ไขปริศนาของลัทธิแม่มดอันลี้ลับ นำเสนอพร้อมเรื่องราวที่เกี่ยวโยงอยู่กับศาสนา และความซับซ้อนของอำนาจอันส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แท้จริงแล้วแม่มดคืออะไร? ต่างจากแม่มดที่เราเคยเข้าใจอย่างไร? หนังสือเล่มนี้มีคำตอบสำหรับนักอ่านทุกท่าน!
ซื้อหนังสือ แม่มด : ประวัติศาสตร์แห่งไสยเวท (Witchcraft History)